ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อนแล้ว บรรยากาศการซื้อขายหุ้นกลับเข้าสู่ความซบเซา ดัชนีแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบๆ ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง เพราะนักลงทุนชะลอการตัดสินใจเพื่อรอดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะรู้ผลแพ้ชนะเช้าวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ ตามเวลาประเทศไทย
ตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ดัชนีเคลื่อนไหวในลักษณะประคับประคองตัว เพราะนักลงทุนต่างชะลอการซื้อขาย เพื่อรอดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นตัวชี้นำภาวะสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน สงครามการค้ากับจีน และจะทำให้ตลาดหุ้นมีทิศทางที่ชัดเจนในทางหนึ่ง
ระหว่างนายทรัมป์ กับนางแฮร์ริส ใครเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ยังมีมุมมองที่แตกต่างสำหรับผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นในตลาดหุ้น นักวิเคราะห์แตกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งระบุว่า ถ้าทรัมป์ชนะการเลือกตั้งจะเป็นผลดีกับตลาดหุ้น
แต่อีกซีกหนึ่ง หนุนแฮร์ริสมากกว่า เพราะสงครามการค้ากีบจีนจะไม่ปะทุรอบใหม่ การค้าประเทศในเอเชียจะไม่ถูกระทบ
สมมติฐานการคาดหมายผลดีผลเสียกับตลาดหุ้น ตามมุมมองของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์แต่ละฝ่าย จะมีบทสรุปหลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือวันพุธนี้
ระหว่างรอปัจจัยชี้นำที่สำคัญ นักลงทุนจึงพยายามประคับประคองตัว ไม่ผลีผลามตัดสินใจ และลดกิจกรรมในตลาดหุ้น ซึ่งเห็นได้ชัดในการซื้อขายวันจันทร์ที่ผ่านมา เพราะมูลค่าซื้อขายหายวูบ เหลือเพียง 28,418.43 ล้านบาท ซึ่งน้อยมากและเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เห็นมานาน ส่วนดัชนีซึมลง -1.22 จุด
และถ้าดูตัวเลขการซื้อขายนักลงทุนรายกลุ่มเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จะเห็นว่า นักลงทุนทั้ง 4 กลุ่ม แทบจะหยุดการซื้อขาย โดยนักลงทุนสภาบัน พอร์ตโบรกเกอร์ ต่างชาติและนักลงทุนรายย่อย มีมูลค่าซื้อขายหุ้นสุทธิเหลื่อมกันเพียง 20-30 ล้านบาทเท่านั้น
นักลงทุนแต่ละกลุ่มคุมเชิงกันหมด เพื่อรอดูผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ รอดูว่า ทรัมป์หรือแฮร์ริสชนะ ปฏิกิริยานักลงทุนทั่วโลกจะออกมาอย่างไร หุ้นจะขึ้นหรือลง
จุดสูงสุดของตลาดหุ้นไทยปีนี้อยู่ที่ระดับ 1,506 จุด ล่าสุดปิดที่ 1,462.95 จุด แต่มีความคาดหมายว่า ดัชนีจะปีนป่ายขึ้นไปที่ระดับ 1,506 จุดได้ และอาจไปต่อได้อีกหน่อย โดยผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ว่าใครชนะ แต่ผลโดยรวมออกมาเป็นบวกต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลก
ความหวังที่จะเห็นดัชนีสร้างจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้มีความเป็นไปได้ แต่ถ้าผลออกมาในเชิงลบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน หุ้นอาจปรับฐานลงต่อ และมีโอกาสหลุดแนวรับระดับ 1,450 จุดได้เหมือนกัน
ก่อนผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ นักลงทุนทั่วโลก จึงวางมือจากการลงทุนทั่วคราว เพื่อจับจ้องการขับเคี่ยวระหว่างทรัมป์และแฮร์ริสจนนาทีสุดท้าย และจะทำให้หุ้นเงียบสนิทต่อไป
แต่นับจากวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ ตลาดหุ้นคงจะรู้ว่าหมู่หรือจ่า ทิศทางจะไปไหน ขึ้นหรือลง ถ้ากลับสู่ทิศทางขาขึ้นคงทะลุ 1,500 จุดในรอบนี้ แต่ถ้ายังอยู่ในทิศทางซึมลง อาจเตรียมใจที่จะเห็นดัชนีหลุด 1,450 จุด
ทนรออีกอึดใจเดียว จะได้รู้ว่าหุ้นจะฟื้นหรือฟุบต่อ เมื่อสหรัฐฯ ได้ประธานาธิบดีคนใหม่