กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจเอเชียมีความเสี่ยงมากขึ้นจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าที่ทวีความรุนแรง รวมถึงวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน และความเป็นไปได้ที่ตลาดจะผันผวนอย่างต่อเนื่อง
IMF ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ (1 พ.ย.) ว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในจีนนั้น อาจกระตุ้นให้เกิดความตึงเครียดทางการค้า โดยส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนในประเทศเพื่อนบ้านที่มีโครงสร้างการส่งออกคล้ายกัน โดย IMF เรียกร้องให้จีนดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์มากขึ้น
"เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวยาวนานและรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้นั้น จะเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก ดังนั้นการตอบสนองด้านนโยบายของจีนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องนี้" IMF ระบุ พร้อมเรียกร้องให้จีนใช้มาตรการต่างๆ ที่เอื้ออำนวยต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และเสริมสร้างการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนให้แข็งแกร่งขึ้น
"ความเสี่ยงที่รุนแรงคือการตอบโต้ทางการค้าระหว่างบรรดาประเทศคู่ค้ารายใหญ่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการแตกกลุ่ม (fragmentation) ทางการค้า และส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค" IMF ระบุ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในรายงานคาดการณ์ล่าสุดนั้น IMF คาดว่าเศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัว 4.6% ในปี 2567 และ 4.4% ในปี 2568 โดยระบุว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะช่วยหนุนอุปสงค์ของภาคเอกชนในปีหน้า