หุ้นบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ตกอยู่ในความเงียบสงบมาช่วงหนึ่งแล้ว ตามหุ้นบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ซึ่งเป็นหุ้นตัวแม่ แต่หลังประกาศเพิ่มทุนรอบใหม่ ราคาหุ้นทะยานขึ้นอย่างคึกคัก
NEX แจ้งตลาดหลักทรัพย์ก่อนเปิดการซื้อขายหุ้นวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ประกาศมติคณะกรรมการบริษัทที่ประชุมเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม โดยวาระสำคัญคือ การเพิ่มทุนจำนวน 5,936 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1 บาท และนำหุ้นจำนวน 3,991 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคา 1 บาท
ส่วนหุ้นอีกจำนวน 1,945 ล้านหุ้น จะเสนอขายบุคคลในวงจำกัดในราคาหุ้นละ 1.07 บาท
การเพิ่มทุนครั้งนี้เพื่อนำเงินขยายการลงทุนและเสริมสภาพคล่อทางการเงินของบริษัท
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา NEX เคยประกาศเพิ่มทุนจำนวน 8,837 ล้านหุ้น นำหุ้นจำนวน 75 ล้านหุ้น จัดสรรให้บุคคลในวงจำกัด ในราคาหุ้นละ 2.55 บาท และนำหุ้นเพิ่มทุนส่วนใหญ่ จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม แต่เนื่องจากมีประเด็นการตีความรายการที่เกี่ยวโยงกัน มีปัญหาการจัดหานักลงทุนที่มีความเหมาะสมจะร่วมพัฒนาธุรกิจและประเด็นข้อกฎหมาย จึงประกาศยกเลิกการเพิ่มทุน
การประกาศเพิ่มทุนครั้งนี้จึงเป็นความพยายามครั้งที่ 2 ซึ่งปรากฏว่า ราคาหุ้นได้ตอบรับการระดมทุนครั้งใหม่ โดยการซื้อขายวันที่ 29 ตุลาคม หุ้น NEX พุ่งทะยานขึ้นอย่างคึกคัก ก่อนปิดการซื้อขายที่ราคา 1.21 บาท เพิ่มขึ้น 13 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 12.03% มูลค่าการซื้อขายหนาตาขึ้น 152.84 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวนมากเผชิญปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน แต่ส่วนใหญ่จะหาแหล่งเงินในรูปแบบอื่น โดยหลีกเลี่ยงการเพิ่มทุน เพราะกลัวผลกระทบราคาหุ้นตกต่ำ จากผู้ถือหุ้นเดิมที่เทขายหุ้น เนื่องจากไม่ต้องการใส่เงินเพิ่มทุน
แต่ราคาหุ้น NEX กลับทะยานขึ้นหลังบริษัทประกาศเพิ่มทุน ซึ่งอาจช่วยทำให้ผู้บริหาร NEX มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นว่า การระดมทุนครั้งนี้จะบรรลุเป้าหมาย
ราคาหุ้น NEX ในรอบ 12 เดือน เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 11.20 บาท และลงมาต่ำสุดที่ 54 สตางค์ ซึ่งเป็นเพราะผลประกอบการ 6 เดือนแรกปีนี้ทรุดลงหนัก โดยมีผลขาดทุน 6 เดือนแรกปีนี้ 206.31 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 504.59 ล้านบาท และไม่เคยจ่ายเงินปันผลมาหลายปี
สาเหตุหลักการขาดทุนงวด 6 เดือนแรก เกิดจากรายได้การขายยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ลดฮวบลง ซึ่งไม่อาจคาดหมายได้ว่า ผลประกอบการ 6 เดือนหลังปีนี้จะฟื้นตัวหรือไม่ ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงของผู้ถือหุ้นเดิมที่จะเติมเงินเพิ่มทุน
ค่าพี/อี เรโช NEX ทะยานขึ้นไปที่ 168 เท่าแล้ว ซึ่งถือว่าสูงมาก และบริษัทกำลังเพิ่มทุนอีกประมาณ 3 เท่าตัว ท้าทายความสามารถในการสร้างผลกำไรของบริษัทให้เติบโตตามจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น
ผู้ถือหุ้นเดิมต้องประเมินว่า อนาคตของ NEX จะกลับมาสดใสหรือไม่ ฝ่ายบริหารบริษัทจะสร้างผลกำไรให้เติบโต รองรับกับจำนวนหุ้นเพิ่มเพิ่มอีก 3 เท่าตัวได้หรือไม่ และจะใช้เวลากี่ปี ในการกดค่าพี/อี เรโช ให้ลงมาในระดับต่ำเหมือนหุ้นทั่วไป
ผู้ถือหุ้นรายย่อย NEX จำนวน 12,248 ราย มีโจทย์ให้คิดว่า จะใส่เงินเพิ่มทุนสู้ต่อกับหุ้นตัวนี้ หรือพอกันทีแค่นี้
ถ้าไม่อยากสู้ต่อ ต้องหาจังหวะขายช่วงที่หุ้นถูกลากขึ้น และปิดฉากกับ NEX โดยไม่ต้องรอลุ้นว่าแผนเพิ่มทุนระดมเงินประมาณ 6 พันล้านจะสำเร็จหรือไม่
