แผนธุรกิจเติบโตไม่สะดุด หนุน“รพ.พระรามเก้า”มีโอกาสพิชิตเป้าหมาย รายได้ 1 หมื่นล้านในปี 2573 จากการขยายฐานลูกค้าต่างประเทศ และและขยายการลงทุนโรคเฉพาะทาง ส่งผลให้ปัจจุบันมีต้นทุนทางการเงินต่ำ หนุนอัตรากำไรเติบโตสูง คาดรายได้-กำไรปีนี้เติบโตต่อเนื่องถึงปีหน้า
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน และไม่มีปัจจัยลบจากภายนอก เชื่อว่าเป้าหมายที่จะขยับเพิ่มรายได้ระดับ 1 หมื่นล้านบาทในปี 2573 น่าจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับบริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 และยังมีความเป็นไปได้ที่ PR9 อาจทำได้เร็วว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
นั่นเพราะ PR9 เดินเกมส์ธุรกิจได้อย่างถูกทาง โดยเฉพาะแผนการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าต่างประเทศ เพราะมียอดขายใช้จ่ายต่อบิลที่สูง จากเข้ามารักษาด้วยโรคที่มีความซับซ้อน รวมถึงการขยายฐานลูกค้าในประเทศจากการจับมือกับพันธมิตรโดยที่ไม่ต้องสร้างโรงพยาบาลเพิ่ม
โดยผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิหลัก 298 ล้านบาท เติบโต 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำกำไรสุทธิไว้ที่ 230 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2.17 พันล้านบาท เติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำรายได้รวมไว้ที่ 1.98 พันล้านบาท ถือเป็นการเติบโตตามเป้าหมายที่ผู้บริหารวางไว้ แม้จะเป็นช่วง Low Season
นั่นเพราะมีสาเหตุหลักมาจากการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นของผู้ป่วยไทยและผู้ป่วยต่างชาติ โดยเข้ามารักษาเพิ่มขึ้นทั้งในรูปแบบ OPD และ IPD (ผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก) อีกทั้งยังมีการเติบโตอย่างโดดเด่นของการใช้บริการในสถาบันโรคไตฯ, สถาบันหัวใจฯ, ศูนย์ศัลยกรรม, ศูนย์กระดูกและข้อ ซึ่งตรงกับกลยุทธ์ และจุดแข็งของบริษัทที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคยากซับซ้อน และมีบริการที่รองรับการก้าวสู่สังคมสูงวัย
ควบคุมค่าใช้จ่ายดีเยี่ยม
นอกจากนี้ PR9 ยังมีวิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม นั่นคือบริษัทสามารถบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายด้านการขายและการบริหารเพิ่มขึ้นเพื่อทำการตลาดเชิงรุกในกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ อาทิ การทำป้ายโฆษณาบิลบอร์ดให้มองเห็นในพื้นที่สาธารณะ และการทำเว็บไซต์ออนไลน์สำหรับชาวต่างชาติ แต่บริษัทก็สามารถทำอัตรากำไร 13.7% ในครึ่งปีแรก เติบโต30% จากอัตรากำไร 11.6% ของ ปีก่อน
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ PR9 มองเห็นแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 3 จากการก้าวเข้าสู่ช่วง High season ทำให้มีจำนวนเคสไข้หวัดที่มาจากฤดูฝนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเคสผู้ป่วยกลุ่มเด็กนักเรียนหลังมีการเปิดเทอม นอกจากนี้มีรายงานว่าตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ป่วยชาวอาหรับเข้ามาใช้บริการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้เข้ามารักษาโรคยากซับซ้อน เช่น โรค ไตวาย, โรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคเบาหวาน และแผลเบาหวานที่เท้า ฯลฯ ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีหลังทางบริษัทได้มุ่งเน้นทำการตลาดเชิงรุก
ไม่เพียงเท่านี้ ยังพบว่ามีผู้ป่วยชาวจีนที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย (Expat) เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น จากกลยุทธ์การทำแบรนด์ให้มีการรับรู้ว่าโรงพยาบาลพระรามเก้ามีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคยากซับซ้อนในราคาที่คุ้มค่า ภายใต้คุณภาพและการบริการระดับสากล
ไตรมาส3เติบโตต่อเนื่อง
ดังนั้นในไตรมาส3/67 บริษัทเชื่อมั่นว่ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจาก คาดว่ารายได้จากผู้ป่วยใน (IPD) และรายได้ผู้ป่วยนอก (OPD) ยังคงเพิ่มขึ้น เพราะการให้บริการที่ดี และในปีนี้โรคไข้หวัดมาเร็ว และมีการระบาดไวรัส RSV ทำให้มีผู้เข้ามารักษาจำนวนมาก ทำให้เตียงของโรงพยาบาลค่อยข้างแน่น ประกอบกับที่ผ่านมาโรงพยาบาลได้มีการปรับค่าบริการขึ้น
พร้อมกันนี้บริษัทยังคงเดินหน้าในการขยายฐานลูกค้าต่างประเทศให้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วน 15% โดยเน้นการเพิ่มตัวแทนที่จะแนะนำคนไข้ให้เข้ามารักษา และการออกไปทำการประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ด้วยการชูจุดแข็งด้านการรักษาโรคซับซ้อน ทั้งโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง ฯลฯ การใช้โรบอทเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผ่าตัด ฯลฯ
“กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น นั้นมาจากกลุ่มตะวันออกกลาง อย่างซาอุดีอาระเบีย ซึ่งบริษัทมีโอกาสมากขึ้นจากความสัมพันธ์ระหว่างกัน ทำให้มีโอกาสที่จะมีการส่งผู้ป่วยประเทศดังกล่าวมารักษาที่ประเทศไทยมากขึ้น รวมถึงประเทศบังกลาเทศ ตอนนี้เริ่มมีลูกค้ามากขึ้นหลังจากที่โรงพยาบาลได้ออกไปประชาสัมพันธ์ ส่วนคูเวต โรงพยาบาลก็มีโอกาสที่จะเป็น 1 ใน 3 โรงพยาบาลที่รัฐบาลคูเวตจะเลือกในการส่งผู้ป่วยมารักษาในประเทศไทย”
สำหรับลูกค้าในประเทศ PR9 มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นทั้งกลุ่มลูกค้าองค์กร และลูกค้าจากฝั่งประกัน โดยกลุ่มลูกค้าองค์กรนั้นเป็นผลจากที่โรงพยาบาลให้บริการที่ดีทำให้มีองค์กรต่างๆ เข้ามาตรวจสุขภาพมากขึ้น และการจับมือกับพันธมิตรต่างๆ เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ให้ลูกค้าบ้านมาใช้บริการโรงพยาบาลพระราม 9 รวมถึงลูกค้าบุคคลเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท ในการซื้ออุปกรณ์การแพทย์ และปรับปรุง โรงพยาบาล ลักษณะค่อยปรับปรุง ทีละชั้น โดยครึ่งปีแรกใช้เงินไปแล้ว 100 ล้านบาท และคาดว่าช่วงที่เหลือของปีนี้จะใช้อีก 200-300 ล้านบาท ทำให้เบื้องต้นโรงพยาบาลอยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการรายได้รวมทั้งปี 2567 ขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่เติบโตราว 13-15% เทียบปีก่อน เป็นรายได้รวมเติบโตได้ราว 15-17% จากปีก่อน
ทั้งนี้ มีรายงานว่าโรงพยาบาลเน้นเจาะลูกค้าที่มี กรมธรรม์ประกันมากขึ้นทั้งกลุ่มลูกค้าองค์กร และลูกค้าทั่วไปให้เข้ามาตรวจสุขภาพ และการจับมือกับพันธมิตรต่างๆ เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ให้ลูกค้าบ้านมาใช้บริการโรงพยาบาลพระราม 9 มากขึ้น
“กลุ่มลูกค้าต่างชาติของเรา ปัจจุบันมีฐานในกลุ่ม CLMV ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะเมียนมา กัมพูชา และเวียดนาม เป้าหมายที่โรงพยาบาลเพิ่ม กลุ่มตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย บังกลาเทศ คูเวต ฯลฯ รวมถึงนักท่องเที่ยว-นักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาในไทย นอกจากนี้กลุ่มผู้รับบริการจากประเทศจีนก็เข้ามารับบริการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รักษาโรคเล็กน้อยจนถึงอุบัติเหตุร้ายแรง พร้อมกันนี้โรงพยาบาลได้เปิด "International Customer Center" รวมถึงศูนย์การแพทย์แผนจีน มุ่งเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศขึ้นให้มากกว่า 17% ของรายได้รวม โดยตั้งเป้า ณ สิ้นปี 2573”
ไตรมาส 4 ยังเติบโตต่อ
ไม่เพียงเท่านี้ จากแผนธุรกิจที่ลงล็อค ทำให้ PR9 คาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2567 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มีแนวโน้มทรงตัวเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมา แม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซันของธุรกิจโรงพยาบาล หนุนจากคนไข้ต่างประเทศทั้ง CLMV จีน โดยเฉพาะการส่งต่อคนไข้จากภูมิภาคตะวันออกกลาง
ประกอบกับบริษัทประสบความสำเร็จจากการดึงฐานคนไข้กลุ่มที่มีกรมธรรม์ประกัน ทั้งคนไข้ทั่วไป และประกันกลุ่มขององค์กรเอกชนให้เข้ามาใช้สิทธิ์ตรวจสุขภาพประจำปี ในช่วง 3 เดือนสุดท้าย จึงมั่นใจว่าจำนวนคนไข้กลุ่มนี้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2568 โดยไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซันการท่องเที่ยวจึงมีกลุ่มที่เข้ามาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเดินทางเข้ามาพอสมควร ขณะเดียวกันคนไทยเองก็หันมารักษาสุขภาพกันมากขึ้น
และสิ่งที่น่าชื่นชมสำหรับ PR9 นั่นคือตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โรงพยาบาลขยายขีดความสามารถครอบคุลมทั้งด้านการรักษาโรคซับซ้อน โรคเฉพาะทาง ศูนย์ศัลยกรรม ศูนย์สุขภาพแนวใหม่ Wellness รวมถึง ศูนย์อินเตอร์เนชั่นแนล คัสตอมเมอร์ เซ็นเตอร์ (International Customer Center) รองรับ ผู้ป่วยต่างประเทศ ฯลฯ โดยสามารถบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หนุนศักยภาพการทำกำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้ทรงตัวในระดับที่น่าพึงพอใจ
ปี 68 ทิศทางยังสดใส
นั่นทำให้ ผู้บริหาร PR9 มั่นใจว่าในปี 2568 จะยังสร้างการเติบโตต่อเนื่องได้จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่พัฒนาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดังนั้นในระยะสั้นๆ ทางโรงพยาบาลจึงไม่มีแผนการลงทุนใหญ่ๆ จึงสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้เติบโตได้ในระดับที่น่าพอใจ
ฐานลูกค้าใหม่หนุนรายได้
ขณะที่โบรกเกอร์คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 67 ของ PR9 ว่าแข็งแกร่งจากรายได้ผู้ป่วยใน (IPD) ที่เพิ่มขึ้นและอัตรากำไรที่ดีขึ้น โดยเฉพาะจากผู้ป่วยต่างชาติกลุ่มตะวันออกกลาง สะท้อนการขยายบริการในตลาดต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4 ปี 68 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องทั้งจำนวนผู้ป่วยและรายได้จากการตรวจสุขภาพตามฤดูกาล รวมถึงการเปิดศูนย์บริการผู้ป่วยต่างชาติใหม่ซึ่งจะหนุนการเติบโตในระยะยาว ทำให้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 67-69 จากแนวโน้มรายได้และอัตรากำไรที่ดีขึ้น รวมถึงการที่บริษัทมุ่งขยายฐานลูกค้าต่างชาติ และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง โดยราคาที่น่าสนใจกว่า 26.00 บาท/หุ้น
สะท้อนได้จาก บล. ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดว่ากำไรจะโตดีต่อเนื่องในไตรมาส 3 ปี 67 จาก High Season ของธุรกิจ Healthcare นอกจากนี้ PR9 ยังได้เซ็นสัญญากับตัวแทนเพิ่มเมื่อไม่นานมานี้เพื่อดึงผู้ป่วยชาวตะวันออกกลางให้เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลของบริษัทโดยเฉพาะชาวกาตาร์ และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งจะหนุนรายได้จากผู้ป่วย ต่างชาติจะโตดีในช่วงครึ่งปีหลัง 67
โดยเบื้องต้นประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 67 ไว้ที่ 656 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.5% เทียบปีก่อน และเร่งตัวต่อเนื่องกว่า 9% ต่อเนื่อง 2 ปี แตะ 720 ล้านบาท ในปี 68 และ 789 ล้านบาท ในปี 69
ด้าน บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ฝ่ายวิจัยคาดผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 67 เติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากเข้าสู่ช่วง High season ที่มีอัตราการใช้บริการของผู้ป่วยสูง อันเป็นผลจากการระบาดของโรคตามฤดูกาล อีกทั้งฝ่ายวิจัยยังประเมินว่าการขยายฐานผู้ป่วยตะวันออกกลางจะเริ่มส่งผลเชิงบวกต่อผลประกอบการ โดย PR9 จะเริ่มรับรู้รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในงวดไตรมาส 3
ดังนั้น จึงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยต่างชาติโดยคาดการณ์ว่าสัดส่วนดังกล่าวจะสามารถเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันที่ 15% ณ สิ้นงวดไตรมาส 2 สู่ระดับ 16-18% ในปีนี้ได้ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ ผู้ป่วยตะวันออกกลางภายหลังเทศกาลรอมฎอน ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของกลุ่มผู้ป่วยหลักจากประเทศจีนและเมียนมา
ทั้งนี้กำไรงวดครึ่งปีแรก 67 คิดเป็นสัดส่วน 47% ของประมาณ กำไรปี 67 ทำให้ฝ่ายวิจัยจึงคงประมาณการ กำไรปีนี้ตามเดิม เนื่องจากข้อมูลในอดีตพบว่ากำไรครึ่งหลังของปีมักจะทำระดับสูงกว่าครึ่งปีแรก โดยประเมิน กำไรสุทธิในปี 2567 อยู่ที่ 642 ล้านบาท เพิ่มขึ้น15% เทียบปีก่อน และคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 67-70 เติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี
ส่วน บล.หยวนต้า ประเมินแนวโน้มธุรกิจของ PR9 ว่าแนวโน้มครึ่่งหลังปี 67 คาดเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งจะเข้าสู่ High season ของธุรกิจ และมีการขยายจำนวนเตียงเพิ่มขึ้นราว 5% และมีกลยุทธ์ในการทำตลาดตรวจคัดกรองโรคไต(Kidney Check-Up) เพื่อเพิ่มรายได้
ทำให้คงประมาณการกำไรปี 67 ที่ 665 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อน เติบโตดีกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม รพ.ที่คาดเติบโต 12% โดยปัจจัยสนับสนุนดังนี้กลยุทธ์ในการเพิ่มรายได้จากศูนย์เฉพาะทาง อาทิ ศูนย์โรคไต โรคหัวใจ ศูนย์กระดูกสันหลัง ศูนย์มะเร็งและข้อเข่าสำหรับผู้สูงอายุ และศูนย์ IVF , คาดรายได้จากลูกค้าต่างชาติจะเติบโต double digitผลบวกจากการเปิดประเทศ และมาตรการฟรีวีซ่า และกลยุทธ์ ในการขยายฐานลูกค้าทั้งกลุ่ม CLMV, ตะวันออกกลาง และยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลางมีการเซ็นสัญญากับทางเอเจนซีในการส่งต่อผู้ป่วยมารักษา
ขณะผลบวกจากการปรับขึ้นค่าบริการทางการแพทย์ สำหรับผู้ป่วย IPD ที่10% และผู้ป่วย OPD จาก 250 บาทเป็น 350บาท ตั้งแต่ ก.พ.67 อีกทั้งกลยุทธ์ในการเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มประกันสุขภาพจากความร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทประกันหลายๆ แห่ง พร้อมกับเน้นเพิ่มฐานลูกค้าบริษัทคู่สัญญา และประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้นจากรายได้จากโรคซับซ้อนและศูนย์รักษาเฉพาะทางที่มีอัตรากาไรสูงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และมีการปรับขึ้นอัตราค่าบริการทางการแพทย์ทั้ง IPD และ OPD รวมถึงราคาห้องพักบางส่วน
ทำให้คงคำแนะนำ “ซื้อ” เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ ปี 67 ที่คาดเติบโตโดดเด่น บริษัทยังมีสถานการเงินที่แข็งแกร่งเป็น Net cash company ไม่มีภาระหนี้สิน