เวียดนามเปิดกลยุทธ์บล็อกเชนแห่งชาติภายใต้เป้าหมายในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำเทคโนโลยีนี้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2030 ซึ่งจะครอบคลุมการสร้างแบรนด์บล็อกเชน 20 แบรนด์ดัง การตั้งศูนย์ทดสอบอย่างน้อย 3 แห่ง และการพัฒนาบุคลากร
วันพุธ (23 ต.ค.) รัฐบาลเวียดนามได้เปิดเผยกลยุทธ์การพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน โดยระบุแผนการทำให้เวียดนามกลายเป็นฮับการวิจัย การนำไปใช้ และการประยุกต์ใช้บล็อกเชน
กลยุทธ์นี้กำหนดให้รัฐบาลสร้างแบรนด์ที่มีชื่อเสียง 20 แบรนด์ ดำเนินการศูนย์ทดสอบบล็อกเชนอย่างน้อย 3 แห่ง และทำให้องค์กรในเวียดนามติดท็อป 10 สถาบันฝึกอบรมและการวิจัยด้านบล็อกเชน
เพื่อบรรลุเป้าหมายที่กล่าวมา เวียดนามเสนอแผนปฏิบัติการ 5 ขั้นตอน ได้แก่ การสร้างสภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่ครบถ้วนสมบูรณ์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สำหรับอุตสาหกรรมบล็อกเชน การส่งเสริมการพัฒนาและการประยุกต์ใช้บล็อกเชน สุดท้ายคือการมุ่งมั่นส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัยระหว่างประเทศเพื่อก้าวล้ำนำหน้าคู่แข่งในอุตสาหกรรมนี้
เวียดนามจะสร้างศูนย์ทดสอบบล็อกเชนหรือ “เขตพิเศษ” ในเมืองใหญ่ และคาดหวังผลักดันบริษัทเทคโนโลยีท้องถิ่นให้สามารถแข่งขันกับผู้เล่นต่างชาติได้มากขึ้น
นอกจากมอบหมายให้กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ รับผิดชอบภารกิจเหล่านี้แล้ว รัฐบาลเวียดนามยังดึงสมาคมบล็อกเชนเวียดนาม (วีบีเอ) และองค์กรที่เกี่ยวข้องมาร่วมดำเนินการโครงการบล็อกเชนภายในประเทศอีกด้วย เพื่อส่งเสริมให้บริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลสร้างแพลตฟอร์มบล็อกเชน และสนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้
ฟานดึ๊กจุง รองประธานวีบีเอ กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นหลักไมล์สำคัญในอุตสาหกรรมบล็อกเชนของเวียดนาม และตอกย้ำความพยายามในการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลที่โปร่งใส ปลอดภัย และยั่งยืน
จุงเสริมว่า วีบีเอเชื่อมั่นว่า บล็อกเชนจะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และช่วยให้เป้าหมายในการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลบรรลุผล
จากรายงานของเวียดนาม วีเอ็น ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของเวียดนาม กลยุทธ์บล็อกเชนแห่งชาติสะท้อนความมุ่งมั่นของเวียดนามในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน รวมทั้งยังสะท้อนเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายสำหรับเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล
ขณะเดียวกัน ในส่วนสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามเป็นหนึ่งในผู้นำในแง่การใช้คริปโต นอกจากนั้นธุรกิจเกมบนบล็อกเชนยังเติบโตอย่างมาก เห็นได้จากการที่บริษัทท้องถิ่นอย่างสกาย เมวิส ซึ่งเป็นผู้สร้างเกม Axie Infinity ได้รับการยอมรับทั่วโลก
แม้เป็นฮับคริปโตที่ขยายตัวต่อเนื่อง แต่ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางเวียดนามประกาศว่า คริปโตไม่ใช่สกุลเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย รวมทั้งไม่สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเวียดนามมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นในการทำให้การใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เวียดนามถูกคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (Financial Action Task Force - FATF) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ก่อตั้งขึ้นตามแผนการริเริ่มของกลุ่มจี7 ขึ้นบัญชีเฝ้าระวังประเทศที่มีความเสี่ยงด้านการฟอกเงินเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และรัฐบาลคาดหวังว่า การทำให้คำจำกัดความของสินทรัพย์ดิจิทัลถูกต้องตามกฎหมายจะช่วยให้เวียดนามหลุดพ้นจากบัญชีรายชื่อนี้