PROUD สร้างมาตรฐานใหม่สู่วงการอสังหาฯ ไทย โดยโครงการคอนโดฯ แบรนด์ระดับโลก InterContinental Residences Hua Hin ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) คว้ามาตรฐาน Fitwel ถือเป็นคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่แห่งแรกของไทย และเป็นโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ InterContinental แห่งแรกของโลกที่ได้รับมาตรฐาน Fitwel Built Certification พร้อมเดินหน้ายกระดับมาตรฐานอาคารทุกโครงการเพื่อการดูแลผู้อยู่อาศัยในระยะยาวโดยเฉพาะด้านสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีตามแนวทางของ Fitwel ปัจจุบันโครงการเวหา หัวหิน (VEHHA Hua Hin) และรมย์ คอนแวนต์ (ROMM Convent) อยู่ในระหว่างการดำเนินการ คาดได้รับการรับรองไตรมาส 1/2568 ถือเป็นหมุดหมายใหม่ของพราว เรียล เอสเตท สู่ผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยแนวหน้าของไทยที่ให้ความสำคัญกับชีวิตดีที่ยั่งยืน (ALL IS WELL) อย่างแท้จริง
น ส.พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า พราว เรียล เอสเตท มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ด้วยการนำมาตรฐานอาคาร Fitwel มารับรองโครงการคอนโดมิเนียมของพราวทุกโครงการ เพื่อส่งมอบการดูแลในระยะยาว และประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ไม่เพียงคุณภาพของการก่อสร้าง และงานออกแบบอันงดงาม แต่ยังมีการบริการ กิจกรรม และการดูแลผู้อยู่อาศัยเพื่อส่งเสริมสุขภาพและรูปแบบการอยู่อาศัยที่ดี โดยมาตรฐานอาคาร Fitwel เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ซึ่งถูกพัฒนาโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งสหรัฐอเมริกา (The U.S. Centers for Disease Control and Prevention, CDC) ร่วมกับสำนักงานบริหารจัดการทั่วไปของสหรัฐอเมริกา (The General Services Administration, GSA)
ปัจจุบัน โครงการ InterContinental Residences Hua Hin ได้รับการรับรอง Fitwel Built Certification ในประเภท Multifamily Residential เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแห่งแรกในไทยที่ได้รับการรับรองในช่วงที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และมีการเข้าอยู่อาศัยจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ InterContinental แห่งแรกของโลกที่ได้รับมาตรฐานนี้ (อ้างอิงข้อมูลจาก Fitwel Directory: https://www.fitwel.org/project-directory) โดยโครงการคอนโดมิเนียมเวหา หัวหิน (VEHHA Hua Hin) และรมย์ คอนแวนต์ (ROMM Convent) อยู่ในระหว่างการดำเนินการและคาดว่าจะได้การใบรับรองในไตรมาส 1/2568
โจแอนนา แฟรงค์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารองค์กร Center for Active Design (CfAD) และ Active Design Advisors, Inc. (Adai) ผู้ดำเนินการของ Fitwel กล่าวเสริมว่า “การที่พราว เรียล เอสเตท ได้นำมาตรฐาน Fitwel มาใช้ควบคู่กับการพัฒนาที่อยู่อาศัยถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอสังหาฯ ในประเทศไทยในด้านสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยภายในโครงการ ทั้งยังส่งเสริมความยั่งยืนและความสัมพันธ์อันดีร่วมกันกับชุมชนอีกด้วย และเราขอสนับสนุนความมุ่งมั่นนี้พร้อมนำ Fitwel เชื่อมโยงทุกองค์ประกอบการออกแบบที่ดีต่อสุขภาพสู่การพัฒนาอีกมากมายต่อไปในอนาคต”
ความมุ่งมั่นในการสร้างมาตรฐานที่ได้รับการรับรองจาก Fitwel ถือเป็นการสร้างพื้นฐานสำคัญให้โครงการ แม้ว่าการก่อสร้างจะดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว บริษัทยังได้ยกระดับการดำเนินงานและปรับเพิ่มฟังก์ชันต่างๆ ในโครงการให้ได้มาตรฐาน พร้อมพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรให้ผ่านการรับรอง Fitwel Ambassador ในหน่วยงานออกแบบและบริหารอาคารอีกด้วย เพื่อดูแลการออกแบบและการอยู่อาศัยในระยะยาว ไม่ใช่เพียงแค่ขายแล้วจบ นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำมาตรฐานในการบริการและช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยเพิ่มเติม ด้วยการอบรมพนักงานผู้ให้บริการในโครงการมีความสามารถในการช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน โดยการประสานงานกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ โรงพยาบาลกรุงเทพ อีกทั้งจัดกิจกรรมเพื่อการดูแลสุขภาวะในโครงการอย่างต่อเนื่อง
ไม่เพียงแค่การรับรองมาตรฐาน Fitwel ให้อาคารคอนโดมิเนียมของพราว เรียล เอสเตท เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการผ่านแนวคิดเพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน (ALL IS WELL) เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่อยู่อาศัย เอื้อต่อคุณภาพชีวิตที่ดีในอีกหลายหลายมิติในอนาคต ในฐานะผู้นำองค์กร ได้เข้าร่วม Global Wellness Institute Ambassador เพื่อนำองค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและองค์กรอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบพื้นที่ใช้สอย การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและไลฟ์สไตล์ต่างๆ ภายในโครงการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแค่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่โครงการที่อยู่อาศัยที่เราพัฒนาขึ้น แต่ยังคงสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือผู้อยู่อาศัยให้อยู่กับพราวต่อไปในระยะยาวได้อย่างดีอีกด้วย
จากนี้ไปทุกโครงการที่อยู่อาศัยที่พัฒนาโดย พราว เรียล เอสเตท ภายใต้แนวคิดชีวิตดีที่ยั่งยืน (ALL IS WELL) จะทำหน้าที่ส่งต่อคุณค่าของที่อยู่อาศัยที่มากกว่าบ้านทั่วไป แต่ยังคงทำหน้าที่ส่งเสริมดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตให้ผู้อยู่อาศัยทุกชีวิตอีกด้วย