นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า YLG ยังมองทองคำเป็นบวก เนื่องจากได้รับปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคหนุนทำให้ราคาทองคำทำ All time high โดยราคาทองคำ spot ทำจุดสูงสุดมาที่ 2,732 เหรียญ/ออนซ์ในวันนี้ ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 67 ราคาทองคำทำ All time high มาแล้ว 7 เดือน
ปัจจัยหลักที่หนุนราคาทองคำมาจากที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ย โดยช่วงที่เหลือของปีนี้คาดจะปรับลงอีก 2 ครั้งครั้งละ 0.25% แม้ไม่มากอย่างที่ตลาดคาดแต่มองว่าเฟดยังเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อไปอีกในปี 68-69 โดยสิ้นปีนี้คาดดอกเบี้ยจะลงมาที่ 4.40% สิ้นปี 68 ปรับลงมาที่ 3.40% และสิ้นปี 69 คาดปรับลดดอกเบี้ยมาที่ 2.90%
ประกอบกับตลาดคาดว่าราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้เพราะจากสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง ซึ่งอิสราเอลโจมตีหนักมากหลังจากกวาดล้างปาเลสไตน์ มาพุ่งเป้าที่กลุ่มอิชบอลเลาะห์ในเลบานอน ซีเรีย และคาดจะมีการโจมตีอิรักเป็นรายถัดไป ซึ่งกลุ่มที่อิสราเอลโจมตีเป็นประเทศที่อิหร่านให้การสนับสนุน โดยต้องการให้อิหร่านสูญเสียอำนาจในแถบตะวันออกกลาง
ขณะเดียวกัน เหลืออีกประมาณ 3 สัปดาห์จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าราคาทองคำน่าจะขึ้นไปต่อก่อนการเลือกตั้ง
"คนมองว่าสถานการณ์ลดดอกเบี้ยของเฟดไม่น่าจะเปลี่ยน ระยะสั้น ในปีหน้ายังเห็นดอกเบี้ยลงต่อ เลยมองบวกอย่างมาก แต่อะไรก็เปลี่ยนได้ ต้องดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ"
นายวรุต กล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หากมีการเปลี่ยนขั้วจากพรรคเดโมแครต มาเป็นพรรครีพับลิกัน หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ราคาทองคำอาจจะอ่อนตัว
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายวรุต คาดว่าราคาทองคำยังไปได้ต่อ ให้เป้าหมายที่ 2,750-2,800 เหรียญ/ออนซ์ หากคิดเป็นทองไทย ราคาทองแท่งจะอยู่ที่ 43,250-44,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 33.16 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ)