ไซมิส แอสเสท เตรียมเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 3 ชุด แบบมีประกันและไม่มีประกัน อายุระหว่าง 1 ปี 1 เดือน-3 ปี อัตราดอกเบี้ย 7.00% ถึง 7.50% ต่อปี โดยจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน คาดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 22, 25-26 พฤศจิกายน 2567 ฟากซีเอฟโอ “รีย์ฐิตา อักษรจิรารัตน์” ระบุ สำหรับชุดที่มีประกันจะมีสินทรัพย์ค้ำประกันมูลค่ากว่า 130% ของวงเงินที่ออก ส่วนผลตอบแทนสูงอ้างอิงจาก MLR (Minimum Loan Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยชั้นดีของลูกค้ารายใหญ่ของธนาคาร
น.ส.รีย์ฐิตา อักษรจิรารัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชี บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน/มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน 3 ชุด ประกอบด้วย
หุ้นกู้ชุดที่ 1 "หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 5/2567 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนก่อนครบกำหนด" อัตราผลตอบแทน 7.25% ต่อปี มีอายุ 1 ปี 1 เดือน
หุ้นกู้ชุดที่ 2 "หุ้นกู้มีประกันของบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 5/2567 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2570 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนก่อนครบกำหนด" อัตราผลตอบแทน 7.00% ต่อปี มีอายุ 2 ปี 3 เดือน
หุ้นกู้ชุดที่ 3 "หุ้นกู้มีประกันของบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 5/2567 ชุดที่ 3 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2570 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนก่อนครบกำหนด" อัตราผลตอบแทน 7.50% ต่อปี มีอายุ 3 ปี
สำหรับชุดที่ 2 และ 3 มีสินทรัพย์ค้ำประกันมูลค่ากว่า 130% ของวงเงินที่ออก โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีหลักประกันคือที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และ/หรือห้องพักโรงแรม Ramada และ/หรือห้องชุดอื่นๆ
กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน จองซื้อขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท พร้อมเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ โดยคาดว่าจะเปิดจองซื้อได้ในวันที่ 22, 25-26 พฤศจิกายน 2567 และคาดว่าจะออกตราสารในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567
สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้เพื่อใช้ชำระหนี้หุ้นกู้ และบริษัทเตรียมนำเงินไปใช้สำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ โครงการ Landmark At Kasetsart TSH Station โครงการ Landmark @ Grand Station โครงการ Monsane Exclusive Villa Ratchapruek-Pinklao และโครงการ Monsane' Ratchapruek - Chaeng Watthana และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกลุ่มบริษัท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงาน 3 ปีย้อนหลัง (2564 - 2566) บริษัทมีผลกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องทำได้อยู่ที่ 146.77 ล้านบาท 155.89 ล้านบาท และ 193.06 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่ผลกำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 ทำได้อยู่ที่ 178.40 ล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 116.14 ล้านบาท หรือ 186.52% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 62.26 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดโครงการ Landmark @MRTA Station ส่วนที่เหลือมาจากการขายโครงการแนวราบ 4 โครงการ
สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นกู้ SA สามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ผู้จัดจำหน่าย 8 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จํากัด บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จํากัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ พาย จํากัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด
อย่างไรก็ตาม หุ้นกู้ทุกรุ่นของบริษัทจะจัดสรรตามความเหมาะสมกับแผนขยายธุรกิจ อีกทั้งมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยผลตอบแทนอ้างอิงกับ MLR (Minimum Loan Rate) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าธนาคารชั้นดีซึ่งเป็นดอกเบี้ยสำหรับการทำธุรกิจหรือลูกค้ารายใหญ่ และมีการจ่ายอัตราดอกเบี้ยตามกำหนดเวลาและครบถ้วนทุกรุ่นมาโดยตลอด บริษัทมุ่งมั่นในการบริหารจัดการทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้นักลงทุนทุกท่าน
"หุ้นกู้ SA ทุกรุ่นที่ผ่านมา บริษัทสามารถจ่ายอัตราดอกเบี้ยได้ครบถ้วน และตรงตามกำหนดทุกรุ่น และบริษัทเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่มองหาโอกาสการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน และมั่นใจว่าจะสามารถชำระดอกเบี้ยได้ตามกำหนดเวลาที่วางไว้" น ส.รีย์ฐิตา กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ **BB+** จาก Tris Rating เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพและความมั่นคงในการบริหารจัดการของบริษัท พร้อมทั้งความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยรายได้หลักมาจากการโอน Branded residence ให้ลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งยังคงมีการเติบโตของยอดขายเป็นอย่างดี เนื่องจากทุกโครงการแนวสูงของไซมิส แอสเสท อยู่ในตำแหน่งที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ และคนไทยที่มี Life Style การพักอาศัยอยู่ใน Branded residence พร้อมทั้งมีแผนทยอยโอนโครงการแนวราบ เช่น Siamese Blossom พหลฯ-วิภาวดี บ้านแฝดและทาวน์โฮม ทำเลติดถนนพหลโยธิน และ Siamese Holm พหลฯ-วิภาวดี บ้านเดี่ยว ติดถนนใหญ่ใกล้ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต อีกทั้งมีแผนเปิดให้บริการโรงแรมใหม่ ในโครงการ Landmark @MRTA Station จำนวน 1 แห่งภายในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยไซมิส แอสเสท คาดหวังว่าจะมีรายได้เติบโตจากปีที่แล้วไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว หรือคิดเป็นประมาณการ 5,000-6,000 ล้านบาท