อเมริกาแถลงกวาดล้างแก๊งหลอกตุ๋นนักลงทุนคริปโตใน 3 ประเทศ ด้วยการยืมมุกโจรจับโจร โดยเอฟบีไอลงทุนตั้งบริษัทและออกโทเคนปลอมเพื่อล่อจับมิจฉาชีพจนสามารถสั่งฟ้องบริษัทหลายแห่งและผู้เกี่ยวข้องอีก 18 คนในข้อหา “ฉ้อโกงและปั่นตลาดคริปโต”
สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) แถลงเมื่อวันพุธ (9 ต.ค) ว่า กลยุทธ์ดังกล่าวนำไปสู่การฟ้องร้องบริษัทคริปโตหลายแห่ง อาทิ Gotbit, CLS Global, MyTrade และ ZM Quant รวมถึงผู้เกี่ยวข้องอีก 18 คนในอเมริกา สหราชอาณาจักร และโปรตุเกส โดยจำเลย 4 คนยอมรับผิดแล้ว
นอกจากนั้นทางการสหรัฐฯ ยังยึดคริปโตได้มากกว่า 25 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะจัดการคืนให้นักลงทุนต่อไป รวมทั้งปิดบอทเทรดคริปโตที่ถูกกล่าวหาว่า ปั่นราคาคริปโตราว 60 สกุล
โจดี้ โคเฮน เจ้าหน้าที่พิเศษที่รับผิดชอบเอฟบีไอในบอสตัน บอกว่า สิ่งที่เอฟบีไอเปิดโปงในคดีนี้เป็นเล่ห์กลใหม่ของอาชญากรรมทางการเงินแบบเดิมๆ และทำให้สามารถฟ้องร้องผู้นำบริษัทคริปโต 4 แห่ง และบริษัทคริปโตที่เป็นผู้เสนอซื้อโทเคนปลอมอีก 4 แห่ง รวมทั้งพนักงานของบริษัทเหล่านี้ที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นแกนนำในกลไกการเทรดอันซับซ้อนที่หลอกสูบเงินนักลงทุนนับล้านดอลลาร์
ในปฏิบัติการที่มีชื่อว่า “Operation Token Mirrors” เอฟบีไอสร้างโทเคนที่ทำงานบนเครือข่ายบล็อกเชนอีเธอเรียมชื่อว่า NexFundAI และพุ่งเป้าที่นักพัฒนา ผู้โปรโมท และผู้เสนอซื้อโทเคนปลอม
จำเลยทั้งหมดถูกกล่าวหาว่า หลอกลวงนักลงทุนด้วยคำกล่าวอ้างเท็จและเกี่ยวข้องกับ wash trading หรือการปั่นราคาด้วยการซื้อขายกันเองในช่วงสั้นๆ เพื่อสร้างภาพลวงตาว่า โทเคนที่โปรโมทอยู่เป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาด และปั่นจนราคาสูงขึ้นก่อนเทขาย โดยผู้เสนอซื้อโทเคนปลอม 3 ราย ได้แก่ ZMQuant, CLS Global และ MyTrade ทำการวอชเทรดหรือสมรู้ร่วมคิดกันวอชเทรดในนาม NexFundAI โดยไม่ล่วงรู้ว่า เป็นโทเคนปลอมของเอฟบีไอ
โจชัว เลวี รักษาการอัยการแมสซาชูเสตส์ แถลงว่า การสอบสวนนี้ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เอฟบีไอใช้วิธีออกโทเคนและตั้งบริษัทปลอมซ้อนแผนมิจฉาชีพ สามารถระบุตัวนักต้มตุ๋นจำนวนมากในอุตสาหกรรมคริปโต และเสริมว่า wash trading เป็นกลโกงที่แพร่หลายในตลาดการเงินมานานแล้ว
ข่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อกว่าสองปีที่ผ่านมา เอฟบีไอประกาศจัดตั้งหน่วยคริปโต
นอกจากนั้น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (เอสอีซี) ยังยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อ Gotbit, CLS, ZM Quant, Saitama และอีกหลายบริษัท รวมทั้งผู้ต้องหาอีก 9 คน โดยกล่าวหาว่า ละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์
สำหรับโทเคน NexFundAI นั้นขณะนี้ปิดไปแล้ว โดยรายงานระบุว่า โทเคนนี้เคยพุ่งขึ้นถึงกว่า 1,558% ตอนที่พวกนักต้มตุ๋นช่วยกันปั่นราคา