xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 33.45 รอประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (9 ต.ค.) ที่ระดับ 33.45 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 33.59 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.30-33.55 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ) โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน แต่โดยรวมเป็นการทยอยแข็งค่าขึ้น (กรอบการเคลื่อนไหว 33.41-33.66 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทมีจังหวะอ่อนค่าลงเข้าใกล้โซนแนวต้าน 33.60-33.70 บาทต่อดอลลาร์ ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ หลังอัตราเงินเฟ้อ CPI และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน ออกมาที่ระดับ 2.4% และ 3.3% ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์เล็กน้อย

อย่างไรก็ดี ภาพดังกล่าวอยู่ได้ไม่นาน หลังยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่อง (Continuing Jobless Claims) ต่างเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 258,000 ราย และ 1,861,000 ล้านราย แย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ กอปรกับถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ที่ต่างย้ำมุมมองเดิมพร้อมสนับสนุนการทยอยลดดอกเบี้ยของเฟด และไม่ได้แสดงความกังวลต่อรายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อที่ออกมาสูงกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างกลับมาเพิ่มโอกาสที่เฟดจะเดินหน้าลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤศจิกายน รวมถึงกลับมาเชื่อว่าเฟดจะทยอยลดดอกเบี้ยได้มากขึ้นในปีหน้า ซึ่งการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดดังกล่าวมีส่วนกดดันให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยิลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีจังหวะปรับตัวลดลง หนุนให้ราคาทองคำพลิกกลับมาปรับตัวสูงขึ้นราว +20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนตลาดรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยการทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ พร้อมกับโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรการรีบาวนด์ขึ้นของราคาทองคำมีส่วนหนุนให้เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นได้ในช่วงคืนที่ผ่านมา

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐฯ โดยเฉพาะในส่วนของอัตราเงินเฟ้อ PCE ผ่านรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI เดือนกันยายน รวมถึงรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) เดือนตุลาคม ซึ่งจะมีการรายงานคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะสั้นและระยะยาวด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของเฟด

และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว เรามองว่าผู้เล่นในตลาดจะยังคงรอติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการตอบโต้อิหร่านของทางการอิสราเอลว่าจะเป็นไปในลักษณะใด และจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันจากตะวันออกกลางหรือไม่

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่าในระยะสั้นเงินบาทอาจมีจังหวะแข็งค่าขึ้นได้บ้าง หลังผู้เล่นในตลาดเริ่มปรับเพิ่มโอกาสที่เฟดจะสามารถทยอยลดดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน ตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ที่ออกมาแย่กว่าคาด (ซึ่งเราขอเน้นย้ำว่า เฟดอาจให้ความสำคัญกับรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ เป็นหลักในการตัดสินใจนโยบายการเงิน) อย่างไรก็ดี เรามองว่าการแข็งค่าขึ้นบ้างของเงินบาทในระยะสั้นนั้น ในเชิงเทคนิคัลถือว่า เป็นสัญญาณที่ดีต่อมุมมองของเราที่ยังเชื่อว่าเงินบาทยังมีโอกาสทยอยอ่อนค่าลงได้ เพราะเงินบาทอาจเคลื่อนไหวในลักษณะ Cup with Handle pattern ได้ ใน Time Frame รายวัน โดยหากเงินบาทไม่ได้แข็งค่าต่อเนื่องจนหลุดโซนแนวรับ 33.10-33.20 บาทต่อดอลลาร์ เรายังคงเชื่อว่า เงินบาทอาจมีแนวโน้มทยอยอ่อนค่าลงได้ และจะยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า เงินบาทจะอ่อนค่าต่อไปถึงโซน 34.00 บาทต่อดอลลาร์ได้ หากเงินบาทสามารถกลับมาอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 33.60 บาทต่อดอลลาร์ได้อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการทำ Cup with Handle pattern ที่สมบูรณ์

ทั้งนี้ ในช่วงระยะสั้นเรายังคงเห็นแรงขายสินทรัพย์ไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะในส่วนของหุ้นไทย ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวจะเป็นปัจจัยกดดันเงินบาทในฝั่งอ่อนค่าได้ ทว่า เงินบาทอาจยังพอได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ ตราบใดที่ราคาทองคำยังพอปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ จากสองปัจจัยทั้งแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด และความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทั้งนี้ ควรจับตาทิศทางของเงินหยวนจีน (CNY) ที่อาจเคลื่อนไหวผันผวนในช่วงนี้ ตามการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีน และการปรับมุมมองต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีน ซึ่งต้องรอลุ้นการแถลงรายละเอียดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีนในวันเสาร์นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น