คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมประกาศ แนวทางการกำกับบริษัทสมาชิกหรือบริษัทหลักทรัพย์ที่มีความเข้มข้นขึ้น ซึ่งจะระวางโทษปรับให้มีความเหมาะสมกับการกระทำความผิด โดยเฉพาะความผิด NAKED SHORT หรือการขายหุ้นโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ
การปรับปรุงร่างประกาศบทระวางโทษบริษัทโบรกเกอร์ เป็นไปตามข้อเสนอของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งได้จัดกลุ่มลักษณะการกระทำผิดใหม่ และการกำหนดบทระวางโทษปรับเป็นเงินให้เหมาะสมในแต่ละความผิด
โดยแบ่งความผิดเป็น 4 ระดับคือ ความผิดน้อย ความผิดปานกลาง ความผิดมาก และความผิดรุนแรง
ความผิดระดับน้อยอัตราโทษปรับ 3,000-30,000 บาทต่อรายการ และสูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ความผิดระดับมาก กระทบกับอุตสาหกรรมหรือผู้ลงทุนในวงกว้าง เช่น มีการส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะไม่เหมาะสม หรือปั่นหุ้น หากสมาชิกไม่ยับยั้ง มีโทษปรับตั้งแต่ 3-10 ล้านบาท
ส่วนกรณี Naked Short Selling ถือเป็นความระดับรุนแรงมาก มีโทษปรับ 3 เท่าของกำไรที่ได้รับ แต่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท จากหลักเกณฑ์เดิมที่ไม่ได้ระบุรายละเอียดที่ชัดเจน มีเพียงบอกถึงโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อลักษณะการกระทำผิด และมีโทษปรับต่อรายการ
นอกจากนั้น ยังกำหนดบทบัญญัติการเพิ่มโทษ สำหรับกรณีกระทำผิดโดยจงใจ หรือเอื้อประโยชน์ให้ลูกค้า หรือหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ และข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยสามารถปรับเพิ่มได้อีกไม่เกิน 10 ล้านบาท
การปรับปรุงบทลงโทษปรับที่สูงขึ้นเป็นการส่งสัญญาณถึงบริษัทโบรกเกอร์ หากส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นที่ไม่เหมาะสมจะเจอโทษปรับที่หนักขึ้น
ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ในการปรับปรุงเพิ่มอัตราโทษปรับสำหรับโบรกเกอร์ที่กระทำความผิด โดยเฉพาะการปล่อยให้ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นที่ไม่เหมาะสม หรือส่งคำสั่งซื้อขายเพื่อปั่นหุ้นเข้า
เพราะบริษัทโบรกเกอร์ทั้ง 38 แห่ง ควรทำหน้าที่เป็นด่านตรวจคำสั่งซื้อขายหุ้นที่ไม่เหมาะสม กลั่นกรองลูกค้าที่มีพฤติกรรมเป็นแก๊งปั่นหุ้น และต้องควบคุมดูแลคำสั่งซื้อขายเป็นกรณีพิเศษ
แต่โบรกเกอร์จำนวนไม่น้อยเห็นแก่ค่านายหน้าซื้อขายหุ้น กลัวลูกค้าจะย้ายไปเปิดบัญชีโบรกเกอร์อื่น จึงเอื้ออำนวยความสะดวกให้เต็มที่ โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่หรือนักลงทุนขาใหญ่ซึ่งมีพฤติกรรมการซื้อขายที่หมิ่นเหม่ต่อการปั่นหุ้นหรือเข้าข่ายการปั่นหุ้น สร้างความเสียหายให้ประชาชนนักลงทุนทั่วไป
โบรกเกอร์หลายแห่งกลายเป็นที่สุมหัวของนักลงทุนขาใหญ่ หรือแก๊งปั่นหุ้น เสี่ยหุ้นส่วนใหญ่ที่อวดรวยเป็นพันๆ ล้านบาท เบื้องหลังการเล่นหุ้นจนร่ำรวยไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเล่นหุ้นเก่ง แต่ได้เงินเพราะเล่นโกง โดยมีโบรกเกอร์และเจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งช่วยสนับสนุน
การเพิ่มบทลงโทษโบรกเกอร์ที่ทำความผิดให้หนักขึ้น แม้จะเป็นเพียงโทษปรับ แต่นักลงทุนทุกคนสนับสนุน ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างแน่นอน
แต่ประเด็นที่ทำให้ต้องฉงนคือ การเพิ่มโทษปรับโบรกเกอร์ที่ปล่อยให้ลูกค้าทำ NAKED SHORT หรือขายหุ้นปากเปล่า โดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ และเป็นชนวนการทุบหุ้นจนดิ่งลงเหวลึกนับสิบๆ บริษัท ตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา
สิ่งที่ต้องตั้งคำถาม ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์คือ NAKED SHORT ยังมีอีกหรือ เพราะถ้าสูญพันธุ์ไปแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ควบคุมจนอยู่หมัดไปแล้ว ทำไมต้องเพิ่มบทลงโทษปรับหนัก NAKED SHORT
นายภากร ปีตธวัชชัย อดีตกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ยืนกรานมาตลอด จนกระทั่งเกษียณอายุหมดวาระในตำแหน่ง ปฏิเสธเสียงแข็งว่า NAKED SHORT หมดไปจากตลาดหุ้นไทยแล้ว และได้ออกกฎเกณฑ์มากมาย จนตรวจสอบได้ว่า นักลงทุนต่างชาติที่สั่งขายหุ้นต้องมีหุ้นอยู่ในมือ
แต่การปฏิเสธของนายภากร ไม่เคยทำให้นักลงทุนหมดความคลางแคลงใจใน NAKED SHORT เพราะยังเชื่อว่า นักลงทุนต่างชาติเล่นขี้โกง เอาเปรียบนักลงทุนในประเทศอยู่
และตลาดหลักทรัพย์ไม่อาจพิสูจน์ทราบจนถึงแหล่งต้นต่อได้ว่าต่างชาติมีหุ้นอยู่ในมือก่อนส่งคำสั่งขายจริงหรือไม่ เพราะไม่สามารถตรวจสอบหรือขอหลักฐานยืนยันการมีอยู่จริงของหุ้นจากคัสโตเดียนหรือผู้ดูแลรับฝากทรัพย์สินในต่างประเทศได้
ตั้งแต่ประกาศใช้มาตรการ UPTICK RULE หรือมาตรการป้องกันการทุบราคาหุ้นจากการ SHORT SELL และมาตรการควบคุมโปรแกรมการซื้อขายหรือ ROBOT TRADE ที่มีความเข้มข้นขึ้น ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ยอดธุรกรรม SHORT SELL ลดลงอย่างชัดเจน
จากเฉลี่ยวันละ 12.88% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นรวม ลดเหลือเฉลี่ยวันละ 3-5% ของมูลค่าซื้อขายหุ้นรวม
แต่มูลค่าซื้อขายจาก ROBOT ลดลงน้อยมาก หรือแทบไม่ได้ลดลงเลยในบางวันคือประมาณ 40% ของมูลค่าซื้อขายรวม สะท้อนให้เห็นว่า ROBOT ยังมีกิจกรรมซื้อๆ ขายๆ หุ้นในอัตราความถี่สูงอยู่ และไม่รู้ว่าการโจมตีหุ้นรายตัว โดยการทำ NAKED SHORT ยังดำรงอยู่หรือไม่
ฝรั่งยังเล่นนอกกติกา เล่นโกง ตีหัวนักลงทุนไทย หอบกำไรกลับบ้านเหมือน 5-6 ปีที่ผ่านมาหรือไม่
การที่ ก.ล.ต.หยิบยกความผิด NAKED SHORT ขึ้นมาปรามโบรกเกอร์ทำให้ต้องตั้งคำถามว่า
การจับเสือมือเปล่า การขายหุ้นโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ การทำ NAKED SHORT เล่นหุ้นโกงคนไทยยังมีอยู่อีกหรือ
เพราะถ้าถูกกวาดล้างไปแล้ว ตลาดหลักทรัพย์วางมาตรการและระบบควบคุมได้เบ็ดเสร็จแล้ว ก.ล.ต.จะรื้อฟื้นความผิด NAKED SHORT ขึ้นมาให้นักลงทุนสับสนทำไม
หรือว่าฝรั่งยังแอบทำ NAKED SHORT อยู่ และโบรกเกอร์บางแห่งยังปล่อยให้ฝรั่งเล่นโกงคนไทยอยู่
เชื้อร้ายในระบบซื้อขายยังไม่ตายไปจากตลาดหุ้นไทยหรือ