The Residences คอนโดฯ ลักชัวรีในมิกซ์ยูส Dusit Central Park มูลค่า 46,000 ล้านบาท ขึ้นเป็นอาคารสูง 5 ลำดับแรกของประเทศไทยแห่งใหม่ โดยมีความสูง 299 เมตร เผยยอดขายไปแล้ว 86% คนไทยสูงถึง 80% แย้มคนไทยและต่างชาติสนใจห้องเพนต์เฮาส์ขนาดใหญ่สุด 900 ตร.ม. หนึ่งเดียวในไข่แดง ราคาอาจทุบสถิติ 1 ล้านบาทต่อ ตร.ม.
ต้องเรียกว่าโครงการมิกซ์ยูส บนถนนพระราม 4 ทยอยเปิดอวดโฉมโครงการ ไล่ตั้งแต่วัน แบงค็อก มูลค่าโครงการ 120,000 ล้านบาท ถัดมา ดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค (Dusit Central Park) มูลค่าโครงการเพิ่มมาอยู่ที่ 46,000 ล้านบาท ซึ่งแต่ละโครงการมีไทม์ไลน์เปิดแต่ละเฟสเพื่อเร่งให้บริการ และสร้างรายได้ เนื่องจากมีมูลค่าโครงการสูงทั้ง 2 โครงการเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
โดยเมื่อ 27 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ส่วนที่เป็นโรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่ของ Dusit Central Park ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ภายใต้ภาพลักษณ์โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว บนตึกความสูง 39 ชั้น รวม 257 ห้อง ราคาค่าห้องพักเริ่มต้น 12,000 บาทต่อคืน (แล้วแต่ช่วงฤดูกาล)
นางละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ Dusit Central Park กล่าวเกริ่นในการแถลงข่าวว่า "ขอให้ขายเฮงๆ" การที่เราไปร่วมแสดงวิสัยทัศน์ และแนวคิดในการพัฒนาโครงการ Dusit Central Park บนเวที “CTBUH 2024 International Conference” พร้อมผู้พัฒนาและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์จากกว่า 55 ประเทศ เพื่อรองรับการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรที่ผ่านมา ภายใต้ธีมประจำปี “New or Renew”
โดยทั่วโลกมีทิศทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบมิกซ์ยูสขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในการเข้าร่วมครั้งนี้ Dusit Central Park ได้แสดงวิสัยทัศน์ภายใต้หัวข้อ “From Legend to Future: Transforming a Legacy into a Market-shaping Development” กับการถ่ายทอดเรื่องราวการสร้างสรรค์และพัฒนาพื้นที่ด้วยโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นมุมมองใหม่สำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบมิกซ์ยูสครบวงจรในประเทศไทยที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน และนับว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่มีศักยภาพตรงตามทิศทางในการพัฒนามิกซ์ยูสของนานาชาติ
"การพัฒนาตึกเราหยุดไม่ได้ เพราะเราต้องพัฒนาเศรษฐกิจ ถ้าเราจะพัฒนาเมือง ทำอย่างไรให้เกิดการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน และเมืองที่เอะอะให้เกิดการพัฒนาได้ การสร้างตึกสูงจะเกิดคาร์บอน แต่มาพร้อมกับการพัฒนเศรษฐกิจ ถ้าวันนี้ เราจะรีนิวตึกใหม่ เราจะสอดแทรกอะไรเข้าไปได้บ้าง เช่น ต้นไม้ เกิดการประหยัดพลังงานได้อย่างไร เราจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างอยู่ได้ 10 ปี ไปถึง 100 ปี ทำอย่างไรให้คนกรุงเทพฯ อยู่ได้ ไปฟังมา ดิฉัน (คัน) รู้สึกอยากเอามาใช้กรุงเทพฯ มากเลย ในเอเชีย สิงคโปร์ไปไกลสุด"
ทั้งนี้ The Residences at Dusit Central Park แบ่งเป็น 2 แบรนด์หลัก ได้แก่
- Dusit Residences (ดุสิตเรสซิเดนเซส) เริ่มที่ชั้น 30-69 ด้วยสไตล์ Classic Luxury ร่วมสมัย สุขุม ออกแบบประณีตตามซิกเนเจอร์ของดุสิตธานี เน้นไปที่ห้องพักขนาดใหญ่ 2-4 ห้องนอน และเพนต์เฮาส์ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 118-900 ตารางเมตร และ
- Dusit Parkside (ดุสิต พาร์คไซด์) เริ่มที่ชั้น 9-29 ห้องชุดขนาด 1-2 ห้องนอน และห้อง Special Units มอบพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 55-250 ตร.ม.
สำหรับความคืบหน้าการขายนั้น ทั้ง 2 แบรนด์ กวาดไป 86% ภายใต้รูปแบบ Leasehold (สิทธิการเช่าที่ถือครองกรรมสิทธิ์ตามช่วงระยะเวลาที่กำหนด) แบ่งเป็นผู้ซื้อคนไทย 80% และผู้ซื้อต่างชาติ 20% ราคาขายเฉลี่ยราว 3.9 แสนบาทต่อ ตร.ม. คาดว่าจะสามารถปิดการขายที่เหลือ 70 ยูนิต หรือประมาณ 10% ได้ภายในปี 2568 และก่อสร้างพร้อมเข้าอยู่ในช่วงปลายปี 2568
โดยในส่วนห้องเพนต์เฮาส์ มี 7 ห้อง ขนาดตั้งแต่ 400-900 ตร.ม. มียอดขายไปแล้ว 50% ซึ่งห้องใหญ่สุด 900 ตร.ม. ห้องเดียว อยู่บนชั้น 69 บนสุดของอาคาร กำลังรอทำโปรโมต
ส่วนห้อง “ห้องเพนต์เฮาส์” ขนาดใหญ่สุดที่มีพื้นที่มากถึง 900 ตร.ม. หนึ่งเดียวของโครงการนั้น ตั้งอยู่บนชั้น 69 บนสุดของอาคาร โดยปัจจุบัน มีผู้สนใจมากกว่า 1 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาการขาย อนึ่ง ราคาขายต่อ ตร.ม.อาจทำสถิติในย่านนี้ด้วยราคา 1 ล้านบาทต่อ ตร.ม.ก็ได้
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างบนพื้นที่กว่า 23 ไร่ (36,800 ตร.ม.) มอบพื้นที่ใช้สอยภายในโครงการกว่า 440,000 ตร.ม. มีสัญญาสิทธิการเช่าทั้งโครงการ 30+29.5 มีมูลค่าจดของสัญญา 1.1%
นางละเอียด กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯ ว่า "เราได้ยินลักชัวรีมีตลาดอยู่ คนที่ถูกกระทบจะเป็นกลุ่มทั่วไป คนที่เน้นเมืองจีนจะถูกกระทบ เพราะเมืองจีนมีการเปลี่ยนนโยบายและเปลี่ยนวิถีชีวิต รวมถึงนักลงทุนลดลงด้วย ลักชัวรีซัปพลายไม่เยอะ ทำไม่ได้เยอะ
"อะไรยากสุด ต้องบอกว่า 5 ปีที่ผ่านมา เราผ่านโควิด เป็นตัวที่ยากที่สุดของนก (นางละเอียด) แล้ว และโควิดไม่ต้องมาอีก คาดหวังให้โปรเจกต์นี้สำเร็จปี 68 ให้คนมีบ้านหลังแรก บ้านหลังที่สองด้วย"