3 สมาคมฯ ตั้งรับ เตรียมสร้างเวทีแห่งโอกาสครั้งสำคัญแก่ภาคอสังหาฯ ไทย ฝ่าทุกวิกฤตสู่ผู้นำการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 หรือ Thailand Number One Real Estate Expo งานมหกรรมที่รวบรวมที่อยู่อาศัยที่ใหญ่ที่สุดในไทยกว่า 1,000 โครงการ มูลค่ากว่าแสนล้านบาท พร้อมคว้าชัยความสำเร็จก่อนโค้งไตรมาสสุดท้ายปี 67
นายถิรชนม์ ธเนศเดชสุนทร ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 เปิดเผยว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจในขณะนี้มีความไม่แน่นอน ซึ่งล้วนมาจากหลายปัจจัยรอบด้าน แต่ 3 สมาคมผู้จัดงาน ได้แก่ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย มองว่าสัญญาณหนึ่งที่มีนัยสำคัญในการขับเคลื่อนภาคอสังหาฯ ต่อไป คือความมุ่งมั่นและความร่วมมือกันของผู้ประกอบการและสถาบันการเงินที่ต่างออกมาร่วมพลังกันผ่านงานมหกรรม ครั้งที่ 46 นี้ โดยมุ่งยกระดับงานนี้ให้เป็นเวทีแห่งโอกาส สานฝันให้คนไทยมีบ้านได้สำเร็จ ก้าวไปเป็น Thailand’s Number One Real Estate Expo งานมหกรรมที่รวบรวมที่อยู่อาศัยที่ใหญ่ที่สุดในไทย และเป็นฟันเฟืองในการผลักดันเศรษฐกิจไทย โดยงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 มีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-3 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“ทั้ง 3 สมาคมต้องการจะต่อยอดความสำเร็จจากงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 45 ที่ผ่านมาเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งการจัดงานตลอด 4 วัน แม้ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปไม่ได้ แต่สามารถผลักดันให้จนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยมีสัญญาจะซื้อจะขายเกิดขึ้นภายในงานมากกว่า 1,000 สัญญา ครั้งนี้ คิดเป็นยอดขายมูลค่าสูงกว่าครั้งก่อนๆ ทะลุเป้า 4,500 ล้านบาท อีกทั้งหลังจบงานมียอดขายตามมาอีกมากกว่าหมื่นล้านบาท จึงเป็นบทพิสูจน์ว่า งานมหกรรมบ้านและคอนโดคือฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้ ทั้งยังสามารถช่วยให้คนไทยสามารถมีบ้านง่ายยิ่งขึ้นได้จริง พร้อมสามารถสร้างมูลค่ายอดขายให้แก่ผู้ประกอบการได้เป็นไปตามเป้า”
นายถิรชนม์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ที่ตลาดอสังหาฯ กำลังเผชิญอยู่นั้น ไม่ว่าจะเป็นการที่ประชาชนซื้อบ้านได้ยาก เพราะรายได้ไม่สอดคล้องกับราคาบ้านเองก็ดี หรือการที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ หรือแม้แต่หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ไม่สามารถแก้ไขได้โดยเพียงหน่วยงานใดหน่วยงานเดียว ภาครัฐ ภาคสถาบันการเงิน และผู้ประกอบการเอกชนจำเป็นต้องผนึกกำลังเข้าด้วยกันจึงจะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ ในขณะที่งานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งนี้ ผู้จัดงานมองเห็นทุกปัญหารอบด้าน จึงอยากเป็นเวทีกลางในการสร้างพันธมิตรความร่วมมือให้สามารถเกิดกลไกสร้างความต้องการในการซื้อบ้านและคอนโดฯ ได้
ภายใต้ความท้าทายที่เกิดขึ้นในตลาด 3 สมาคมยังมั่นใจในปัจจัยบวกที่ช่วยให้งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 สามารถรักษาโมเมนตัมความสำเร็จได้ เพราะงานครั้งนี้ยังคงได้รับความร่วมมืออย่างดีจากดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำมากกว่า 150 บริษัท แต่ที่พิเศษยิ่งขึ้นคือการมีผู้ประกอบการบิ๊กเนมหลายแบรนด์มาร่วมออกบูทในครั้งนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ แสนสิริ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น เจ้าพระยามหานคร เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอพี และลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ทำให้ผู้บริโภคจะได้ชอปบ้านในฝันจากโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทมากกว่า 1,000 โครงการ อีกทั้งยังมีสถาบันการเงินชั้นนำหลายค่ายร่วมใจกันมาให้บริการสินเชื่อ พร้อมคำปรึกษาดีๆ กับผู้บริโภคถึงที่ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงเทพ เป็นต้น
“ปัจจัยสนับสนุนอีกประการก็คือกลไกกระตุ้นภาคอสังหาฯ ของรัฐ โดยผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้การซื้อขายที่อยู่อาศัยในประเทศขับเคลื่อนต่อไปได้และส่งผลในทิศทางบวกไปจนถึงต้นปีหน้า แต่ยังทำให้คนไทยที่ต้องการซื้อบ้านมีความหวังในเรื่องการยื่นกู้สินเชื่อผ่าน โดย ธอส.ได้เตรียมจัดบริการสินเชื่อพิเศษมาเพื่อผู้มาเดินงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 โดยเฉพาะ ภายใต้สินเชื่อบ้าน 1 แสนล้าน ให้กู้ 110% โดยมีโครงการสินเชื่อบ้าน DD (ดี๊ดีย์) ภายใต้กรอบวงเงิน 50,000 ล้านบาท พร้อมสินเชื่อบ้าน 71 ปี ธอส.กรอบวงเงินอีก 50,000 ล้านบาท ขณะที่มาตรการของภาครัฐสำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในปี 2567 อย่างการลดค่าโอน จดจำนอง บ้าน คอนโดฯ ในกรอบ 7 ล้านบาท ยังนับเป็นอีกแรงหนุนให้แก่ผู้สนใจจับจองที่อยู่อาศัยได้มีโอกาสก่อนสิ้นปีนี้” นายถิรชนม์ กล่าว
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ได้รับความสนใจในการการลงทะเบียนเข้าร่วมชมงานล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จาก 4,000 รายในการจัดงานครั้งที่แล้ว ณ วันที่ 7 ตุลาคม มีผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมชมงานล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์แล้วกว่ส 6,600 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นกลุ่มที่อยู่ในช่วงอายุ 41-50 ปี มากที่สุด ในสัดส่วน 30% ตามมาด้วยกลุ่มที่อยู่ในช่วงอายุ 31-40 ปี ในสัดส่วน 28% และอันดับ 3 ได้แก่ กลุ่มที่อยู่ในช่วงอายุ 51-60 ปี โดยกลุ่มที่เข้าชมงานและจองซื้อบ้านมากที่สุดได้แก่ กลุ่มที่อยู่ในช่วงอายุ 31-50 ปี ซึ่งสอดคล้องกับการลงทะเบียนเข้าร่วมชมงานล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ ด้านธนาคารที่มีผู้สนใจขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมากที่สุด อันดับแรกๆ เป็นธนาคารรัฐ ได้แก่ ธาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน และ ธนาคารกรุงไทย
ด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อดึงดูดความสนใจและเข้าถึงผู้บริโภค ทาง 3 สมาคมได้ใช้หลากหลายแพลตฟอร์มเพื่อครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการกระจายคอนเทนต์ไปยังโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้ง Facebook, IG, Line OA, Website, YouTube, KOL และ TikTok รวมทั้งผ่านสื่อสายหลักอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันงาน นอกจากนี้ ยังมีการพูดประชาสัมพันธ์ผ่านทางรายการโทรทัศน์ยอดนิยม ‘รายการเรื่องเล่าเช้านี้’ และมีการจัดทำภาพยนตร์โฆษณาความยาว 15-30 วินาที เผยแพร่ทางสื่อสาธารณะ จอโฆษณาใน BTS และ MRT รวมทั้งการประชาสัมพันธ์เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติให้ได้ทราบข่าวสารการจัดงานในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
ในส่วนของโปรโมชันพิเศษภายในงาน คณะจัดงานยังได้เตรียมของรางวัลและสิทธิพิเศษมากมาย เช่น ทองคำ ส่วนลดเงินสด และเครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่ารวมกว่า 800,000 บาท มาสมนาคุณลูกค้าที่จองซื้อภายในงานตลอด 4 วัน
ใครกำลังมองหาที่อยู่อาศัยราคาเอื้อมถึง ทำเลดี มีความเป็นไปได้แน่นอนที่จะมีบ้าน พบกันได้ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-3 พฤศจิกายน 2567 ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นอกจากนี้ รายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดงานครั้งนี้ พร้อมเงินสมทบทุนจากคณะจัดงานของ 3 สมาคมจะมอบให้องค์กรการกุศลผ่านกระทรวงการคลัง เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย