หุ้นน้องใหม่ที่เข้าตลาดหุ้นช่วงนี้ราคาพุ่งทะยานอย่างร้อนแรง โดยบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ นำร่องไปก่อนหน้า และหุ้นบริษัท ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด (มหาชน) หรือ TATG ขยับขึ้นมาตาม แต่นักเก็งกำไรที่แห่เข้าไปลุยหุ้นใหม่ทั้ง 2 ตัวนี้ ถ้าหนีออกไม่ทัน ต้องพลาดท่าเสียที บาดเจ็บตามกัน
TATG เข้ามาซื้อขายในตลาด MAI ในทรงเดียวกับ OKJ โดยราคาถูกกระชากขึ้นในช่วงเปิดตลาด และราคาหุ้นขึ้นไปสูงระดับ 100% เหนือราคาจอง ก่อนจะถูกทุบขายจนราคาดิ่งลง นักลงทุนที่พัดหลงเข้าไปถ้าขายไม่ทันต้องติดหุ้นต้นทุนสูงตามระเบียบ
TATG เป็นผู้ผลิตเครื่องมือในอุตสาหกรรมรถยนต์ นำหุ้นจำนวน 100 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1 บาท เสนอขายนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรกในราคา 1.25 บาท มีค่าพี/อี เรโช เพียง 5.2 เท่า ต่ำกว่าอุตสาหกรรมเดียวกันที่มีค่าพี/อี เรโช เฉลี่ยประมาณ 6-7 เท่า
หุ้นที่นำเสนอขาย 100 ล้านหุ้น แบ่งจัดสรรให้ผู้มีอุปการคุณ 15 ล้านหุ้น จัดสรรให้กรรมการพนักงาน 10 ล้านหุ้น เหลือ 75 ล้านหุ้น บริษัทผู้จัดการจำหน่ายเป็นผู้จัดสรร ซึ่งนักลงทุนขาใหญ่ นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู ได้รับจัดสรร 6 ล้านหุ้น นายวัชระ แก้วสว่าง หรือเสี่ยป๋อง ได้รับจัดสรร 5 ล้านหุ้น
หุ้นที่จะนำไปจัดสรรให้นักลงทุนทั่วไปถูก 2 นักลงทุนขาใหญ่จองไปแล้ว 11 ล้านหุ้น จึงเหลือหุ้นที่จัดสรรให้นักลงทุนทั่วไปเพียง 64 ล้านหุ้น ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องจัดโควตาให้ขาใหญ่ที่ไหนอีกหรือไม่ ถ้าถูกตัดแบ่งไปอีก จะเหลือหุ้นที่กระจายสู่นักลงทุนจริงๆ น้อยมาก
จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย TATG ที่ปรากฏในสมุดทะเบียนล่าสุด มีจำนวนเพียง 519 ราย ซึ่งถือว่าน้อยมาก และจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนซื้อขายมีน้อย ขณะที่จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยมีน้อย เป็นสิ่งที่เอื้ออำนวยต่อราคาหุ้นที่จะลากขึ้นอย่างร้อนแรง
และ TATG ก็เปิดตัวอย่างร้อนแรง โดยประเดิมซื้อขายเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมในราคากระโดดที่ 2.32 บาท และถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 2.44 บาท ก่อนถูกทุบลงมาต่ำสุดที่ 1.54 บาท และปิดที่ 1.54 บาท สูงกว่าราคาจอง 29 สตางค์ หรือสูงกว่าจอง 23.20% มูลค่าซื้อขาย 814.70 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้นที่ซื้อขาย 397.98 ล้านบาท หรือเกือบ 4 เท่าของหุ้นที่นำมาเสนอขาย
ไม่มีใครต่อว่าต่อขานหุ้น TATG ได้ ในประเด็นราคาหุ้นที่นำมาเสนอขายนักลงทุน เพราะผู้ที่ได้รับโควตาจองกำไรโดยถ้วนหน้า ไม่ว่าขายในราคาไหน เพราะตลอดชั่วโมงซื้อขายวันแรกราคาหุ้นไม่เคยต่ำกว่าจอง และปิดตลาดเหนือจอง 23%
แต่สิ่งที่น่าสงสัยคือ มีใครอยู่เบื้องหลังการลากนักเก็งกำไรขึ้นไปเชือด ซ้ำรอยหุ้น OKJ หรือไม่
และใครลาก TATG ไปเปิดที่ 2.32 บาท ก่อนจะลากต่อไปสูงสุดที่ 2.44 บาท และทุบลงมาปิดที่ 1.54 บาท ซึ่งเทียบกับราคาสูงสุดกับราคาปิด มีส่วนต่าง 90 สตางค์ หรือ 36.88%
แมลงเม่าที่ตามแห่ไล่ซื้อหุ้น TATG ที่ราคา 244 บาท และขายออกไม่ทัน ถ้ายังถือหุ้นอยู่ขาดหุนบักโกรกไปแล้ว ขณะที่นักลงทุนรายใหญ่หรือผู้ถือหุ้นเดิมที่ไม่ติดไซเรนต์พีเรียด หรือช่วงเวลาห้ามขายหุ้น อาจเทขายหุ้นทิ้ง โกยกำไรสบายไปแล้วเช่นกัน
TATG แม้จะระดมเงินเพียง 125 ล้านบาท แต่เชื่อว่าน่าจะมีการจัดงบประชาสัมพันธ์ หว่านสื่อหุ้นจำนวนไม่น้อย จนมีสื่อหุ้นออนไลน์บางสำนักเชียร์หุ้น TATG อย่างหยดย้อย หวานเจี๊ยบ เชียร์สุดลิ่มทิ่มประตู ชนิดอ่านแล้วแทบอาเจียนใส่จอคอมพิวเตอร์ เชียร์ชนิดไม่รู้สึกระอายข้อครหารับเงินมาเชียร์
ไม่สำนึกถึงเวรกรรมที่จะตามเล่นงานชีวิตในวันใดวันหนึ่ง ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง จากบาปที่พานักลงทุนไปตายใน TATG
พฤติกรรมหุ้นใหม่ที่ร้อนแรงสุดเหวี่ยง จนดูเหมือนว่ามีใครอยู่เบื้องหลังการสร้างราคาหุ้นที่เข้าซื้อขายในวันแรก ไม่เคยได้รับการแก้ไข
เหมือนตลาดหลักทรัพย์จงใจปล่อยให้ขาใหญ่ เจ้ามือ หรือเจ้าของหุ้นปั่นราคากันได้เสรี โดยไม่มีการตรวจสอบรายการซื้อขาย
และตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหุ้นมาจนเกือบครบ 50 ปี ยังไม่เคยมีหุ้นใหม่ตัวใดถูกกล่าวโทษการปั่นหุ้นในวันแรกที่เข้าซื้อขาย
ทั้งที่วันแรกที่หุ้นใหม่เข้าซื้อขาย มักมีการวางแผนปั่นราคาไว้ล่วงหน้า มีทั้งใช้เงินฟาดหัวสื่อที่หิวโหยผลประโยชน์เชียร์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตูอย่างไม่ละอายแก่ใจ
มีทั้งดึงนักลงทุนขาใหญ่มาร่วมสร้างภาพสร้างราคาหุ้น
วงจรอุบาทว์การปั่นราคาหุ้นใหม่ในการซื้อขายวันแรกๆ สร้างความเสียหายให้นักลงทุนที่หลงเข้าไปเก็งกำไร คงดำเนินต่อไป ตราบที่ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ไม่มีความตระหนักในการกำราบ ปราบปราม และตรวจสอบการซื้อขายที่ผิดปกติของหุ้นใหม่ตั้งแต่วันแรก
รวมทั้งหุ้น TATG ที่ลากแมลงเม่าขึ้นไปทุบในวันแรกด้วย
