“เม็ดเงินกำลังไหลเข้า” โดย คุณวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ลิเบอเรเตอร์

บทความโดย คุณวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน
ที่มา: บล.ลิเบอเรเตอร์
ติดตามบทวิเคราะห์หลากหลายมิติครบทุกประเภทสินทรัพย์กับทีมนักวิเคราะห์ได้ตลอดเดือนที่
Website Liberator : https://www.liberator.co.th/research

ตุลาคม ยังลุ้นแกว่งขึ้น ขานรับกระแสเงินทุนไหลเข้า ทั้งจากเม็ดเงินต่างชาติ ผสานเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งสอดคล้องภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัว ขณะที่ปัจจัยที่ต้องจับตาคือการเข้าสู่ช่วงรายงานผลประกอบการ 3Q24 ดังนั้นจึงเน้นสะสมหุ้นอิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และมีแนวโน้มกำไรดี โดยหุ้นเด่นสำหรับเดือนนี้เราแนะนำ BBIK, BCH, CPALL, ERW

กองทุนวายุภักษ์เตรียมเข้าพยุงตลาด : ผ่านพ้นช่วงการขายหน่วยลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ ประเภท ก. ไปเรียบร้อยแล้วในช่วงปลายเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งผลตอบรับอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีคำสั่งซื้อจากนักลงทุนสูงกว่าเป้าหมายที่ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งคาดเม็ดเงินดังกล่าวจะเข้ามาในตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นเดือน ต.ค. นี้ ถือเป็นเม็ดเงินใหม่ที่คาดเข้ามาช่วยพยุง SET เพิ่มเติม แม้ว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมาตลาดจะปรับขึ้นเก็งประเด็นนี้ไปในระดับหนึ่งแล้ว โดยสำหรับเป้าหมายการลงทุนของกองทุนในส่วนของตลาดหุ้น คาดจะอยู่ในเงื่อนไขดังนี้ คือ 1) หุ้นที่อยู่ใน SET100 ที่มี SET ESG Ratings อยู่ในระดับตั้งแต่ A ขึ้นไป 2) กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และกองทุน REIT ที่มีผลตอบแทนสูง และต้องมีสภาพคล่อง รวมทั้งมีการกำกับดูแลที่ดี และ 3) หุ้นที่ไม่ได้อยู่ใน SET100 แต่ผลประกอบการดี และมีคะแนน ESG Ratings ไม่ต่ำกว่า AA

เม็ดเงินต่างชาติยังลุ้นไหลเข้าเพิ่มเติม : จากความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และต่อเนื่องไปยังปีหน้า ส่งผลให้แรงขายของต่างชาติเริ่มชะลอตัวลง โดยตั้งแต่ต้นปีต่างชาติขายสุทธิราว 9.5 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ต่างชาติขายสุทธิกว่า 1.92 แสนล้านบาท โดยหากพิจารณาภาพรายเดือน จะพบว่าเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติเริ่มพลิกกลับมาซื้อสุทธิราว 2.9 หมื่นล้านบาท ถือเป็นเดือนแรกในรอบ 5 เดือนล่าสุดที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อ โดยเรายังคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้หากภาพเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ดี ก็น่าจะยังคงเป็นเป้าหมายการไหลเข้าของกระแสเงินทุนจากต่างชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสซื้อขายในระดับ Valuation ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีตได้ราว +0.5 ถึง 1.0 SD หรือคิดเป็นระดับของ SET index ปีนี้ที่บริเวณ 1,500-1,550 จุด

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังเป็นปัจจัยสำคัญ : จากการแถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นแรงกระตุ้นขาแรกให้กับตลาด ขณะที่ในช่วงถัดไป ก็ต้องติดตามการขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ ตามที่ได้แถลงไว้ โดยมาตรการระยะสั้นที่จะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น เม็ดเงินช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง, การแก้ปัญหาหนี้, การกระตุ้นภาคท่องเที่ยว รวมไปถึงมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่างๆ คาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นเพิ่มเติม

ให้น้ำหนักผลประกอบการมากขึ้น : เข้าสู่เดือน ต.ค. คาดตลาดจะเริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นผลประกอบการ 3Q24 มากยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มเห็นการทยอยคาดการณ์ และผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน 3Q24 ดังนั้นการสะสมหุ้นในจังหวะนี้อาจต้องเน้นตัวที่แนวโน้มผลประกอบการ 3Q24 อยู่ในเกณฑ์ที่ดีด้วย

กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET เดือนตุลาคม ลุ้นฟื้นต่อเนื่อง ในกรอบ 1,420-1,500 จุด แรงหนุนจากภาพเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัว ผสานมาตรการกระตุ้นของภาครัฐฯช่วยเพิ่มความหวัง กระตุ้นเม็ดเงินต่างชาติ และกองทุนวายุภักษ์เป็นตัวช่วยผลักดัน โดยแนะทยอยสะสมหุ้นที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุนทั้งในและต่างประเทศ อิงเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว เช่น กลุ่มค้าปลีก, ท่องเที่ยว, ขนส่ง, โรงพยาบาล, นิคมฯ, ไฟแนนซ์, โรงไฟฟ้า เป็นต้น โดยสำหรับหุ้นเด่นประจำเดือนมีดังต่อไปนี้

4 หุ้นเด่น ประจำเดือนตุลาคม 2024

1) BBIK (58.25) งานในมือ ณ สิ้น 2Q24 อยู่ที่ 905 ล้านบาท ทำจุดสูงสุดใหม่ สะท้อนถึงอุปสงค์ที่กำลังฟื้นกลับมาแรง ผสานกับงบประมาณภาครัฐฯปี 2025 ที่จะอนุมัติในเดือน ต.ค. คาดไม่ล่าช้าเหมือนปีก่อน จะหนุนให้กำไรครึ่งปีหลังฟื้นเด่น และ Virtual Bank คาดหนุนงานในมือเพิ่มขึ้น

2) BCH (23.9) ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาตอบรับความกังวลทั้งประเด็นผู้ป่วยจากคูเวตที่อยู่ระหว่างการพิจารณาลดโรงพยาบาลไทย และประเด็นสำนักงานประกันสังคมจะลดค่าบริการทางการแพทย์ของโรคซับซ้อน แต่เราคาดว่าในระยะสั้นทั้งสองประเด็นจะมีความชัดเจน และคาด BCH มีลุ้นตอบรับเชิงบวก ขณะที่ภาพระยะยาวคาดรายได้ยังเติบโตดี และมี Valuation น่าสนใจ

3) CPALL (78.00*) ภาพรวม SSSG ของ CPALL ในช่วงเดือน ก.ค. และ ส.ค. มีแนวโน้มขยายราว 1-3% ซึ่งถือว่าดีกว่ากลุ่มค้าปลีกตัวอื่นๆ ส่วนแนวโน้ม2H24คาดยังเติบโตได้ดี จากภาคการบริโภคที่ขยายตัว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐฯ เน้นด้านการบริโภคที่ออกมา คาดเป็นส่วนช่วยในการเติบโตในระยะกลาง-ยาว

4) ERW (5.00*) แนวโน้มกำไรในช่วง2H24 คาดปรับตัวขึ้นสอดรับกับทิศทางการท่องเที่ยวไทยที่กำลังเข้าสู่ช่วง High Season โดยคาด RevPar ขยับเพิ่มต่อเนื่อง ผสานกับระยะสั้นในช่วงต้นเดือน ต.ค. จะเข้าสู่ Golden week คาดหนุนจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเร่งตัวขึ้นเด่น

*ราคาเป้าหมายจาก Bloomberg Consensus

เพื่อนๆสามารถอ่านบทความการลงทุน LIB of The Month ประจำเดือน ตุลาคม 2567 แบบฉบับเต็ม จากทีมงานนักวิเคราะห์ลิเบอเรเตอร์ท่านอื่นๆได้ที่ liberator.co.th/article/view/lib-of-the-month-october-2567

และสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวในโลกลงทุน ทั้งในประเทศและทั่วโลก ได้ตลอดวันผ่านช่องทาง Facebook Page : www.facebook.com/Liberator.co.th/ , X Platform : https://x.com/th_liberator

เปิดบัญชีใหม่ https://go.liberator.co.th/xlnX/LOpenAcc

มีพอร์ตกับลิเบอเรเตอร์ได้อะไรบ้าง..?

#เทรดคุ้มกับค่าคอมเบาๆทั้งแบบจ่ายตามจริงหุ้นไทยเริ่มต้น 0.06% และคุ้มยิ่งขึ้นกับแพคเกจแบบเหมาจ่ายรายเดือน LIBFAM Subscription Model #คอมมูนิตี้กิจกรรมทุกเดือน กินข้าว ดูหนัง เตะบอล เล่นบาส คลาสสัมมนา และ อีกมากมาย #เข้าถึงคลังความรู้ออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มของลิเบอเรเตอร์ LIB Academy ดูย้อน ดูซ้ำ เรียนได้ไม่จำกัด