หน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หรือ VAYU1 ประเดิมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้ว โดยราคายืนเหนือกว่าราคาที่เสนอขาย 10 บาทตาความคาดหมาย แต่ที่ประหลาดใจคือ ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลโครงสร้างผู้ถือหน่วยลงหุ้นเหมือนกองทุนรวมอื่นๆ หรือหุ้นบริษัทจดทะเบียนทั่วไป
ตั้งแต่ปิดจองขายหน่วยลงทุน สำหรับนักลงทุนประเภท ก. หรือประชาชนทั่วไปเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา จนบัดนี้ยังไม่ใครได้รับรู้ว่า ประชาชนทั่วไปสนใจร่วมลงทุนในกองทุนวายุภักษ์มากน้อยขนาดไหน ยอดจองซื้อหน่วยลงทุนมีเท่าไหร่ จากวงเงินที่จัดไว้ให้จองซื้อ 30,000-5000 ล้านบาท
ไม่รู้ว่ากระทรวงการคลังจะปิดลับตัวเลขจองวายุภักษ์ของประชาชนไว้ทำไม เป็นไปได้หรือไม่ว่า กลัวถูกโห่ที่ขายไม่ได้ กลัวขายขี้หน้าจนต้องปิดลับตัวเลขไว้จนวาระสุดท้าย
แม้กระทั่งเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้ว ในสรุปข้อสนเทศกองทุนวายุภักษ์ ยังไม่มีข้อมูลโครงสร้างผู้ถือหุ้นปรากฏ จนน่าตั้งคำถามตลาดหลักทรัพย์ว่า การเปิดเผยข้อมูลสรุปข้อสนเทศสำหรับหน่วยลงทุนกองทุนรวม หรือหุ้นบริษัทจดทะเบียนที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น ตลาดหลักทรัพย์มีมาตรฐานเดียวกันหรือไม่ โดยจะต้องเปิดเผยข้อมูลในสรุปข้อสนเทศให้ครบถ้วน
หรือมีข้อยกเว้นเป็นกรณีพิเศษสำหรับกองทุนวายุภักษ์โดยเฉพาะ โดยหน่วยลงทุนสามารถเข้าซื้อขายได้ ทั้งที่ข้อมูลโครงสร้างผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ครบถ้วน
และอันที่จริงไม่มีข้อมูลรายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุนแม้แต่รายเดียวด้วยซ้ำ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้ประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน โดยไม่รู้ว่าตลาดหลักทรัพย์ปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไร และกรณีการเปิดเผยข้อมูลไม่ครบถ้วน แต่หน่วยลงทุนกลับเข้าซื้อขายได้อย่าง ”วายุภักษ์” จะเกิดขึ้นอีกรอบหรือไม่
กองทุนวายุภักษ์จัดตั้งและขายหน่วยลงทุนอย่างโปร่งใส ระดมเงินได้ 150,000 ล้านบาทเต็มเพดานกองทุน แต่มีการตุกติกการปิดลับตัวเลขการจองซื้อหน่วยลงทุนของประชาชน และการนำหน่วยลงทุนเข้ามาซื้อขายโดยมีคำถามถึงมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน
ซึ่งเบื้องหลัง อาจเกิดจากยอดจองซื้อกองทุนวายุภักษ์ของประชาชนน้อยมาก
ยอดจองซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ของประชาชน ตัวเลขที่ได้ยืนยันมามีประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าความคาดหมาย แต่ในส่วนนักลงทุนประเภท ข. หรือนักลงทุนสถาบัน จองหน่วยลงทุนมาท่วมท้นเกินวงเงินที่จัดสรรไว้
ทำไมประชาชนจึงเมินกองทุนวายุภักษ์ ทั้งที่ผลตอบแทนต่อปี 3-9% และมีการวางมาตรการเพื่อให้มันใจว่า ครบ 10 ปีจะได้รับคืนเงินต้นเต็มจำนวน เป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังต้องหาคำตอบว่า เป็นเพราะไม่เชื่อมั่นว่า จะได้รับผลตอบแทนตามที่ประกาศและกลัวไม่ได้รับคืนเงินต้น
หรือเป็นเพราะเผชิญปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ เผชิญปัญหาค่าครองชีพ จึงไม่มีเงินร่วมลงทุนกับวายุภักษ์
กองทุนวายุภักษ์ได้แสดงผลงาน ช่วยพยุงไม่ให้ตลาดหุ้นเกิดความผันวนรุนแรง โดยเริ่มลุยซื้อหุ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม และซื้อหุ้นวันละหลายพันล้านบาท ทำให้ยอดซื้อนักลงทุนสถาบันระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคมพุ่งขึ้นรวม 3.40 หมื่นล้านบาท เป็นยอดซื้อหุ้นสุทธิ 1.47 หมื่นล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นอย่างหนักและต่อเนื่อง โดยมียอดขายหุ้นสุทธิ 108 หมื่นล้านบาท
ถ้าไม่มีกองทุนวายุภักษ์เป็นตัวช่วย ดัชนีอาจทรุดหลุด 1,400 จุดไปแล้ว
วายุภักษ์ก่อกำเนิดในช่วงเวลาที่ดี และเข้ามาช่วยพยุงสถานการณ์ตลาดหุ้นไม่ให้เลวร้าย
แต่การนำหน่วยลงทุนเข้ามาจดทะเบียนในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา มีคำถามว่า “วายุภักษ์” ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่