xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยไหลลงแรงปิด -13.26 จุด จากความตึงเครียดตะวันออกกลางปะทุรุนแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตะวันออกกกลางปะทุเดือดอีกรอบ นักลงทุนกระหน่ำเทขายฉุดดัชนีร่วง -13.26 จุด นักวิเคราะห์เผยดัชนีหุ้นไทยไหลลงตามตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค และถูกเทขายทำกำไรออกมา จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น หลังจากอิหร่านโจมตีอิสราเอลเพื่อตอบโต้การโจมตีในเลบานอน มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับไว้ที่ 1,435 จุด และแนวต้าน 1,460 จุด แนะจับตา 3 ปัจจัยสำคัญในตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซืิ้อขายวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ปรับตัวลดลง -13.26 จุด หรือ -0.91% โดยปิดตลาดที่ 1,451.40 จุด มูลค่าซื้อขาย 57,926.56 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวร่วงตามภูมิภาคโดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,464.27 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,447.40 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 97 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 158 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 410 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -5,361.17 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -359.63 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,065.18 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +4,655.62 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,736.19 ล้านบาท ปิดที่ 134.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
2.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,140.01 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,071.41 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
4.INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,717.67 ล้านบาท ปิดที่ 91.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
5.KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,650.07 ล้านบาท ปิดที่ 21.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,010.60 จุด ลดลง -11.67 จุด หรือ -0.58% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 920.18 จุด ลดลง -4.60 จุด หรือ -0.50% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 352.76 จุด ลดลง -2.58 จุด หรือ -0.73%

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยมีแรงขายทำกำไรออกมา จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น หลังจากอิหร่านโจมตีอิสราเอลเพื่อตอบโต้การโจมตีในเลบานอน

"ในเดือนตุลาคมนี้ มีจัจจัยหลักที่นักลงทุนควรจับตามอง ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางการลงทุน 3 ประเด็นคือ คือ 1. หุ้นส่วนใหญ่สะท้อนข่าวดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไปแล้ว 2. นักลงทุนต่างชาติอยู่ในสถานะมีกำไร หรือได้รับผลตอบแทนรวมกว่า 20% อาจพิจารณาขายออกก่อน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเริ่มเข้าแทรกแซงค่าเงินบาท และ 3. ผลประกอบการไตรมาส 3/67 กลุ่มพลังงานไม่ได้โดดเด่นมากนัก จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงในไตรมาส 3/67 " นายกิจพล กล่าว

ขณะที่แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ น่าจะซึมลงต่อเนื่อง จากหุ้นหลายตัวปรับตัวขึ้นมาอยู่ในจุดที่มี Valuation ตึงตัว หรือมี Upside ไม่มากแล้ว ให้แนวรับไว้ที่ 1,435 จุด และแนวต้าน 1,460 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น