"ร็อคเทค โกลบอล" ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 3,100 ล้านบาท หรือเติบโต 20% หลังลบภาพธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน สู่การเป็นผู้ให้บริการไอซีทีครบวงจร แจง BTS เข้าถือหุ้นใหญ่ หนุนรับงานใหญ่และเพิ่มช่องทางหาแหล่งทุนรองรับการขยายงานฉลุย พร้อมตั้งเป้าการเติบโต 5 ปีข้างหน้า 10% เดินหน้าหาลูกค้านอกกลุ่ม BTS เพิ่มเฉียด 30% ขณะใจป้ำปันผลครั้งแรกในรอบ 4 ปีหุ้นละ 0.013 บาท
นายเว่ย แซม แลม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ร็อคเทค โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ ROCTEC หรือชื่อเดิมคือ บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ดำเนินธุรกิจสื่อ Out-of-Home หลังจากกลางปี 66 MACO เปลี่ยนชื่อมาเป็น ROCTEC พร้อมกับเปลี่ยนภาพลักษณ์การเป็นผู้ให้บริการและผลิตสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย มุ่งสู่การเป็น ICT Solution Provider และเมื่อเดือน มิ.ย.ปี 67 ได้ย้ายจากกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ เข้าไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หมวดธุรกิจเทคโนโลยีและสารสนเทศและการสื่อสาร
ทั้งนี้ เพราะสัดส่วนรายได้ปัจจุบันของ ROCTEC เกือบ 85% มาจากงานวางระบบครบวงจร ขณะที่รายได้จากธุรกิจเดิมคือการบริการและผลิตสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยมีสัดส่วนรายได้เพียง 15% เนื่องจากปัจจุบัน ROCTEC มีธุรกิจหลักทั้งหมด 2 ส่วน คือ ICT solution กินสัดส่วน 85% แบ่งเป็น 3 หมวดหลัก คือธุรกิจงานวางระบบคมนาคมขนส่ง หรือ Transportion Solutionซึ่งมี market Share มากกว่า 50% ในส่วนของ Digital Display และ 90% ในกลุ่ม IoT System ธุรกิจงานวางระบบครบวงจร หรือ Integrated Technology Solutions โดยมีทีม in-house R&D ที่เป็น intelligence ของบริษัทและธุรกิจงานสื่อประชาสัมพันธ์
นายเว่ย แซม แลม เผยว่า แม้ธุรกิจสื่อโฆษณาจะมีรายได้ลดลงตามฤดูกาล แต่ธุรกิจหลักของ ICT Solutions ยังคงมีการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งบริษัทยังมีความสำเร็จในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการจัดการต้นทุนในธุรกิจ ICT Solutions ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขั้นต้นสูงถึง 21% เมื่อเทียบปีที่ผ่านมา ขณะที่ผลประกอบการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ ROCTEC ฟื้น มีกำไรและจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่งผู้ถือหุ้นอนุมัติการจ่ายเงินปันผล 0.013 บาทต่อหุ้น
สำหรับปี 67 ROCTEC ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 3,100 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 20% จากปีก่อน พร้อมเป้าหมาย 5 ปีข้างหน้าจะเติบโตปีละ 10% ด้วยแผนการใช้งบลงทุนธุรกิจสื่อโฆษณา 100-200 ล้านบาท เพื่ออัปเกรดระบบจอดิจิทัลโฆษณา เช่น การเปลี่ยนจอภาพแสดงผล และปรับปรุงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องให้ทันสมัยมากขึ้น รองรับการเข้าไปประมูลงานระบบรถไฟฟ้าครั้งใหญ่ใน 1-2 ปีข้างหน้า ส่วนธุรกิจไอซีทีจะใช้งบลงทุนน้อยเนื่องจากในการรับงานต่างๆ มักมีเงินหมุนเวียนรับเข้ามาเพียงต่อในแต่ละโครงการโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
**เตรียมหาลูกค้านอกกลุ่ม BTS แตะ 20-30%***
นายเว่ย แซม แลม กล่าวถึงภายหลังจากที่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ได้ทำการเพิ่มทุนเพื่อเข้าซื้อหุ้นของ ROCTEC ที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อ ROCTEC เพราะการเป็นบริษัทในเครือของ BTS จะได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้น และการหาแหล่งเงินทุนเพื่อใช้สำหรับการขยายงานโปรเจกต์ในอนาคตจะมีช่องทางที่ดีและง่ายขึ้น
"และผลดีที่ BTS มักจะได้งานที่เกี่ยวเนื่องโครงการขนาดใหญ่ ทั้งโครงการสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา หรือเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ROCTEC มีโอกาสที่จะเข้าร่วมประมูลในงานส่วนที่ถนัดมากขึ้น อีกทั้งความถนัดของ ROCTEC ที่ลุยงานธุรกิจบริการไอซีทีในสนามบินในฮ่องกง และทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทำให้ถือเป็นข้อได้เปรียบในการที่จะขยายฐานลูกค้าในไทยให้มากขึ้น"
ปัจจุบัน ROCTEC ได้ขยายการบริการครอบคลุมหลายประเทศในเอเชีย อย่างฮ่องกง ให้บริการด้านเครือข่ายข้อมูลให้หน่วยงานราชการหลัก โซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ นวัตกรรมสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง e-transformation ของ MTR ผู้จัดหาจอแสดงผลและระบบสื่อสารด้านในของรถไฟที่ใหญ่ที่สุด
ขณะที่ในไทยคืองานโซลูชันจอแสดงผลดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด โซลูชันจอแสดงด้านในรถไฟฟ้า สิงคโปร์ เป็นผู้จัดหาระบบจอแสดงผลสถานีสำหรับ MRT, CCTV และระบบสื่อสารในขบวนรถไฟ ส่วนที่เวียดนาม ได้งานระบบจอแสดงผลดิจิทัล จัดหา LED Screen สำหรับสื่อ OOH ให้ media agency รายใหญ่ของเวียดนาม และมาเก๊าเป็นระบบ CCTV สถานีสำหรับ MLRT ระบบควบคุมและการตรวจสอบวิดีโอสำหรับ MLRT
"เราพยายามจะยายสัดส่วนลูกค้านอกกลุ่ม BTS ไปที่บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก คาด 2-3 ปีข้างหน้า สัดส่วนลูกค้านอกกลุ่ม BTS แตะ 20-30% โดยเฉพาะกลุ่ม Digital Display ทั้งในส่วน Advertiser Exhibition Hall เช่น อิมแพค เมืองทองธานี Smart City และกลุ่ม Transportation มากขึ้น"
สำหรับผลงานไตรมาสแรกปีนี้ ROCTEC มีรายได้อยู่ที่ 754 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว กำไรขั้นต้น (Gross Profit) 201 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เทียบกับปีที่แล้วและกำไรสุทธิ (Net Profit) มีมูลค่า 74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น76% ซึ่ง Net Profit Margin เพิ่มขึ้นเป็น 10% จาก 7% ในปีก่อนหน้า
อนึ่ง ROCTEC อยู่ในระหว่าง กลุ่ม BTS และ บริษัท อาร์บี เซอร์วิสเซส หรือ RB ซึ่งเป็นบริษัทย่อย 100% ของ BTS ร่วมทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ 1,401.45 ล้านหุ้น หรือ 17.26% ของหุ้นทั้งหมดราคาหุ้นละ 1 บาท จาก บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI จะส่งผลให้ BTS กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ROCTEC 100%