เสริมสร้าง พาวเวอร์ฯ สุดแกร่ง! ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร "BBB+" แนวโน้ม "Stable" หรือ "คงที่" ตั้งแต่ปี 2565-2567 โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว และผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่มีความมั่นคง ฟากซีอีโอเผยทุ่มงบลงทุนกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท รุกขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ ประเดิม COD โครงการใหม่ปีหน้า
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรระดับ "BBB+" ด้วยอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ตั้งแต่ปี 2565-2567 สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่บริษัทลงทุนมีความมั่นคงและสามารถสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว
ขณะที่บริษัทมีเป้าหมายการเติบโตสูง จากการกำหนดกลยุทธ์การเติบโตในช่วง 5 ปีข้างหน้า ด้วยแผนเพิ่มกำลังการผลิตสุทธิให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญประมาณ 600 เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปี 2571 ล่าสุดอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการในหลายๆ ประเทศ โดยเป็นโรงไฟฟ้าจากพลังงานหลากหลายรูปแบบ ซึ่งรวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานขยะ
สำหรับในประเทศญี่ปุ่น บริษัทกำลังพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ “LEO 2” ขนาด 22 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการในไตรมาส 4 ปี 2568 ส่วนในประเทศไทย กำลังพัฒนาโรงไฟฟ้าขยะชุมชน จำนวน 2 โครงการ ด้วยกำลังการผลิตรวม 19.8 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินการในช่วงปลายปี 2569 รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อีก 3 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 134.5 เมกะวัตต์ และมีกำหนดจะเริ่มเปิดดำเนินการในระหว่างปี 2570 -2571 นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอีก 2 โครงการในไต้หวัน กำลังการผลิตตั้งรวม 56.5 เมกะวัตต์ โดยโครงการเหล่านี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2569 และ 2571 ตามลำดับ
ทริสเรทติ้ง ประเมินว่า บริษัทมีสภาพคล่องที่เพียงพอ โดยโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากสัญญาเงินกู้โครงการระยะยาวเป็นหลัก ณ เดือนมิถุนายน 2567 มีหนี้สินทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่จะครบกำหนดชำระคืนภายใน 12 เดือนข้างหน้าจำนวนรวมทั้งสิ้น 3.5 พันล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทมีเงินสดจำนวน 3.8 พันล้านบาท นอกจากนี้ ทริสเรทติ้ง คาดว่าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ประมาณ 1.7 พันล้านบาทในช่วง 12 เดือนข้างหน้าด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคม 2567 บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในบริษัท วินชัย จำกัด มูลค่า 2.1 พันล้านบาท ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 100% ช่วยลดความกังวลและผลกระทบจากการที่ค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ SPN จะหมดอายุลงในเดือนมกราคม 2568 ด้วยรายได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 45 เมกกะวัตต์ ของวินชัยที่คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทราว 700-800 ล้านบาทต่อปี
"การที่ทริสฯ จัดอันดับองค์กรให้อยู่ระดับ BBB+ นั้น ถือเป็นการตอกย้ำความเข้มแข็งในด้านฐานะการเงินของบริษัท ซึ่งมีความพร้อมในการรองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงการใช้กลยุทธ์ในการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนทำให้พอร์ตเติบโต โดยปัจจุบัน SSP มีกำลังการผลิตอยู่รวมที่ 282 เมกะวัตต์ ตั้งเป้าเติบโตกว่า 600 เมกะวัตต์ในปี 2571" นายวรุตม์ กล่าว