ไบแนนซ์ ประกาศความสำเร็จ ทุบสถิติปริมาณธุรกรรมซื้อขายตลอดกาลสูงถึง 100 ล้านล้านดอลลาร์ โดยชูจุดขาย เน้นย้ำถึงการเติบโตและความสำเร็จในการหลีกเลี่ยงภาวะตลาดและการต่อสู้ด้านกฎระเบียบของการกำกับดูแล
ริชาร์ด เทง ซีอีโอ ของไบแนนซ์ ประกาศความสำเร็จดังกล่าวในโพสต์บนแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 24 กันยายน โดยระบุว่า “เมื่อต้นเดือนนี้ ปริมาณการซื้อขายตลอดกาลบน Binance ทะลุ 100 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว”
โดยตัวเลขดังกล่าวเป็น 2 เท่าของมูลค่าตลาดรวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งตอกย้ำความโดดเด่นของไบแนนซ์ ในอุตสาหกรรมคริปโต นอกจากนี้ จำนวนปริมาณธุรกรรมเทรดที่สำคัญนี้สะท้อนถึงความโดดเด่นของแพลตฟอร์มและบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมที่กำลังเกิดขึ้นใหม่
โดยข้อมูลจาก Kaiko แสดงให้เห็นว่าไบแนนซ์ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มคือการแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดตามปริมาณการซื้อขาย และทรงอิทธิพลในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 50% ของตลาด
เหตุการณ์สำคัญดังกล่าวเกิดขึ้น 4 เดือนหลังจากที่ไบแนนซ์เปิดเผยว่ามีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนแล้วเกิน 200 ล้านคน โดยก่อนหน้านี้ แพลตฟอร์มยังเปิดเผยอีกว่าสินทรัพย์ภายใต้การดูแลของตนทะลุเกณฑ์หนึ่งแสนล้านดอลลาร์
เส้นทางสู่ 100 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
การเดินทางของไบแนนซ์ ไปสู่ปริมาณการซื้อขายนี้ไม่ราบรื่นมากนัก เนื่องมาจากต้องเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายและการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลในเขตอำนาจศาลหลายแห่ง
โดยเมื่อปีที่แล้ว จากการตรวจสอบของฝ่ายบังคับใช้กฏหมายยอมรับว่ามีการละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน การโอนเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ทางไบแนนซ์ต้องถูกศาลตัดสินลงโทษ โดยทางไบแนนซ์ตกลงที่จะจ่ายค่าปรับจำนวน 4.3 พันล้านดอลลาร์ ให้กับทางการสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการชำระเงินที่มีมูลค่าสูงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมคริปโต
ซึ่งหลังจากนั้น นายฉางเผิง จ้าว ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอ ไบแนนซ์ ตกลงที่จะปกิบัติตามคำสั่งศาล ด้วยการลาออกและห้ามยุ่งเกี่ยวใดๆกับไบแนนซ์ตลอดชีวิต ซึ่งนายจ้าวรับสารภาพว่าละเมิดพระราชบัญญัติความลับของธนาคาร และยอมจ่ายค่าปรับ 50 ล้านดอลลาร์ โดยนายจ้าวมีกำหนดพ้นโทษปลายเดือนนี้ หลังศาลพิพากษาให้เขาจำคุกเป็นเวลา 4 เดือน
ในขณะเดียวกัน นายริชาร์ด เทง ซีอีโอ คนปัจจุบันของไบแนนซ์ซึ่งเข้ามารับช่วงต่อจากริชาร์ด เทง ได้ให้คำมั่นว่าจะนำพาไบแนนซ์ เข้าสู่ยุคใหม่ของการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แม้ว่าบริษัทจะยังคงเผชิญกับอุปสรรค และความท้าทายต่างๆ อยู่ก็ตาม ซึ่งความท้าทาย เหล่านี้ คือการขยายแพลตฟอร์มการดำเนินงานไปยังภูมิภาคใหม่ๆรวมถึงอินเดีย
“ไบแนนซ์ จะเติบโตต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง เพราะผู้ใช้ของเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น” ริชาร์ด เทง กล่าว
นอกจากนี้ ยี่ เหอ ผู้ก่อตั้งร่วมของไบแนนซ์ ยังเน้นย้ำถึงการมุ่งเน้นใหม่ของการแลกเปลี่ยนในการให้บริการผู้คนในวงกว้างมากขึ้น โดยระบุว่า “เป้าหมายของเราคือการทำให้เทคโนโลยีบล็อคเชนเข้าถึงผู้คนทั่วไปได้ โดยไม่กังวลว่าจะเกิดวิกฤติฟองสบู่หรือไม่ แต่ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง จะเปลี่ยนแปลงโลกและสร้างประวัติศาสตร์”
