หุ้นไทยปิดร้อนแรง +14.20 จุด นักวิเคราะห์เผยหุ้นไทยพุ่งสอดตล้องตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากธนาคารกลางจีน (PBOC) เตรียมดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีน หนุนหุ้นกลุ่มที่พึ่งพาการบริโภคของจีน โดยเฉพาะปิโตรเคมีที่ถูกกดดันมาในช่วงก่อนหน้านี้จากดีมานด์ของจีนชะลอลง ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,470-1,475 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,445-1,450 จุด คาดดัชนีพรุ่งนี้แกว่งตัวไซด์เวย์
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 24 ก.ย.2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +14.20 จุด หรือ +0.98% โดยปิดตลาดที่ 1,462.10 จุด มูลค่าซื้อขาย 56,806.14 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุด 1,463.31 จุด ในขณะที่ทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,447.59 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 274 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 185 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 21 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -3,189.28 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,556.04 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +383.94 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +249.30 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,788.76 ล้านบาท ปิดที่ 65.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,296.04 ล้านบาท ปิดที่ 140.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
3.PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,091.60 ล้านบาท ปิดที่ 31.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.25 บาท
4.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,908.90 ล้านบาท ปิดที่ 110.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
5.IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,893.85 ล้านบาท ปิดที่ 25.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,018.75 จุด เพิ่มขึ้น 24.63 จุด หรือ 1.24% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 924.61 จุด เพิ่มขึ้น 11.38 จุด หรือ 1.25% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 357.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.85 จุด หรือ 0.24%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมามากตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากธนาคารกลางจีน (PBOC) เตรียมดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ส่งผลบวกต่อ sentiment ตลาดหุ้นทั้งเอเชีย และเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มที่พึ่งพาการบริโภคของจีน โดยเฉพาะปิโตรเคมีที่ถูกกดันมาในช่วงก่อนหน้านี้จากดีมานด์ของจีนชะลอลง เมื่อพลิกฟื้นขึ้นมาอย่างโดดเด่นจึงช่วยหนุนภาพรวมดัชนี
ขณะที่แนวโน้มของกระแสเงินทุน (Fund flow) ยังไหลเข้าต่อเนื่อง ตามทิศทางการแข็งค่าของเงินบาท และตลาดคาดว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในครั้งต่อไปมีโอกาสจะลดดอกเบี้ยลงอีก 0.50% เป็นบวกต่อตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่ยังเห็นแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่
"แนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ หรือไซด์เวย์อัป จากปัจจัยบวกความคาดหวังของเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช่วยหนุนเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยให้แนวต้าน 1,470-1,475 จุด แนวรับ 1,445-1,450 จุด" นายชัยพร กล่าว
