xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 32.96 คาดแกว่งตัว sideways รอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย 
เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (24 ก.ย.) ที่ระดับ 32.96 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.85-33.05 บาท/ดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย (กรอบการเคลื่อนไหว 32.88-33.02 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำยังคงสามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All-Time High) ท่ามกลางความหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด (ผู้เล่นในตลาดยังคงประเมินว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้อีกราว -75bps ในอีก 2 การประชุมที่เหลือในปีนี้)

ประกอบกับความต้องการถือทองคำในช่วงสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคงร้อนแรงอยู่ ทั้งนี้ การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทถูกชะลอลงบ้างตามจังหวะการรีบาวรด์แข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมซื้อสกุลเงินหลัก (Cross THB) เช่น เงินเยนญี่ปุ่น (JPYTHB) หลังในช่วงนี้ เงินเยนญี่ปุ่นได้ทยอยอ่อนค่าลงมาพอสมควร เมื่อเทียบกับเงินบาท (JPYTHB ต่ำกว่า 23 บาท/100 เยน)

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ อย่าง ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี (IFO Business Climate) เดือนกันยายน รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB

ส่วนทางฝั่งเอเชีย ในส่วนนโยบายการเงินนั้น ตลาดประเมินว่า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.35% จนกว่าจะมั่นใจแนวโน้มการชะลอตัวของเงินเฟ้อ ส่วนทางฝั่งญี่ปุ่น ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของผู้ว่าฯ BOJ หลังล่าสุด BOJ ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนในการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า BOJ จะกลับมาขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้อีกครั้งในช่วงกลางปีหน้าเป็นต้นไป

สำหรับในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานยอดการค้าระหว่างประเทศ (Exports & Imports) เดือนสิงหาคม ว่าจะมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องได้หรือไม่ ในส่วนของยอดการส่งออก ซึ่งจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

และในฝั่งสหรัฐฯ ประเด็นสำคัญจะอยู่ที่ ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดย Conference Board ในเดือนกันยายน

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ไปก่อนเพื่อรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเงินบาทจะมีการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนในทิศทางใดทิศทางหนึ่งเมื่อตลาดปรับเปลี่ยนมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ซึ่งเรามองว่ามีความเสี่ยงที่ตลาดอาจต้องปรับลดมุมมองต่อการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดบ้าง หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ นับจากนี้ไปไม่ได้ออกมาเลวร้ายนัก หรือออกมาดีกว่าคาด ทำให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้บ้าง

อนึ่ง ในช่วงระหว่างวัน เราประเมินว่าเงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าตามแรงขายทำกำไรสินทรัพย์ไทยของบรรดานักลงทุนต่างชาติบ้าง โดยเราเริ่มเห็นการปรับลดสถานะ Net Long THB (มองเงินบาทแข็งค่า) ของผู้เล่นในตลาดบางส่วนผ่านการทยอยขายบอนด์ระยะสั้น ส่วนในฝั่งหุ้นเริ่มเห็นความเสี่ยงที่ดัชนี SET อาจเข้าสู่ช่วงพักตัวในระยะสั้น ตามที่เราประเมินไว้ในวันจันทร์ นอกจากนี้ การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมาทำให้บรรดาสกุลเงินหลัก (Cross THB) อ่อนค่าลงพอสมควร เช่น เงินเยนญี่ปุ่น (JPYTHB) เปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดทยอยเข้าซื้อบรรดาสกุลเงินดังกล่าวได้บ้าง กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง ทั้งนี้ เรามองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัดแถวโซนแนวต้าน 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ตราบใดที่ราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนและสามารถทยอยปรับตัวขึ้นได้
กำลังโหลดความคิดเห็น