นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ที่ระดับ 32.60-33.30 บาท/ดอลลาร์ และกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.80-33.00 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานดัชนี PMI ของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก)จากระดับเปิดเช้านี้(23ก.ย.67) ที่ระดับ 32.93 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 33.06 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นจนทะลุโซนแนวรับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ที่เราประเมินไว้ได้สำเร็จ (แกว่งตัวในกรอบ 32.90-33.15 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All-Time High) ได้ โดยราคาทองคำยังพอได้แรงหนุนจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังคงร้อนแรงอยู่ ขณะเดียวกัน ผู้เล่นในตลาดต่างคงคาดหวังว่าเฟดจะสามารถเร่งลดดอกเบี้ยได้มากกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทสามารถแข็งค่าขึ้นทะลุแนวรับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ที่เราประเมินตามการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด แรงซื้อสินทรัพย์ไทยและโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ
สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่าควรติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด และ ECB พร้อมรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของบรรดาเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะดัชนี PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทนั้นยังมีอยู่ แต่เราเริ่มเห็นโอกาสที่เงินบาทอาจชะลอการแข็งค่าขึ้น หากเงินดอลลาร์รีบาวนด์ขึ้นจริง รวมถึงนักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยขายทำกำไรสถานะถือครองสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นไทย ส่วนราคาทองคำอาจไม่ได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางไม่ได้ร้อนแรงขึ้นชัดเจน อีกทั้งในเชิง valuation เงินบาทเริ่มเข้าสู่โซน Slightly Overvalued
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่าเงินดอลลาร์อาจรีบาวนด์ขึ้นบ้าง หากรายงานดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าข้อมูลจากประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ หรือในกรณีที่บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างประเมินภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้เลวร้ายนัก พร้อมย้ำจุดยืนทยอยลดดอกเบี้ยในลักษณะที่ใกล้เคียงหรือสอดคล้องกับคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายล่าสุด (Dot Plot) โดยเน้นประเมินสถานการณ์แต่ละการประชุม (Data Dependent) ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้เหมาะสม
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทนั้นยังมีอยู่ แต่เราเริ่มเห็นโอกาสที่เงินบาทอาจชะลอการแข็งค่าขึ้น หากเงินดอลลาร์รีบาวนด์ขึ้นจริง รวมถึงนักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยขายทำกำไรสถานะถือครองสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นไทย ส่วนราคาทองคำอาจไม่ได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางไม่ได้ร้อนแรงขึ้นชัดเจน อีกทั้งในเชิง valuation เงินบาทเริ่มเข้าสู่โซน Slightly Overvalued
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่าเงินดอลลาร์อาจรีบาวนด์ขึ้นบ้าง หากรายงานดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าข้อมูลจากประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ หรือ ในกรณีที่บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างประเมินภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้เลวร้ายนัก พร้อมย้ำจุดยืนทยอยลดดอกเบี้ยในลักษณะที่ใกล้เคียงหรือสอดคล้องกับคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายล่าสุด (Dot Plot) โดยเน้นประเมินสถานการณ์แต่ละการประชุม (Data Dependent) ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้เหมาะสม