xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยปิดร้อนแรง +19.07 จุด ตามตลาดโลก ตอบรับเฟดลดดอกเบี้ยแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดพุ่งแรง +19.07 จุด นักวิเคราะห์เผยวันนี้หุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบวกต่อเนื่อง รับปัจจัยหนุนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยลงมา 0.50% ตามที่ตลาดให้น้ำหนักไว้ ส่วนหุ้นไทยรับแรงซื้อหุ้นใหญ่ที่ได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากดอกเบี้ยขาลง โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โรงไฟฟ้า และค้าปลีก ทำให้เป็นแรงหนุนต่อดัชนี มองแนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ประเมินกรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,460-1,465 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,435-1,440 จุด แนะจับตาการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น โดยเฉพาะประเด็นอัตราดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 19 ก.ย. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +19.07 จุด หรือ +1.33% โดยปิดตลาดที่ 1,454.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 67,697.79 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,454.84 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,436.14 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 382 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 162 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 123 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,886.42 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +1,037.71 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +744.31 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +104.40 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.EA มูลค่าการซื้อขาย 2,857.30 ล้านบาท ปิดที่ 8.95 บาท ลดลง 0.50 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,711.76 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,465.40 ล้านบาท ปิดที่ 108.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
4.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,395.21 ล้านบาท ปิดที่ 155.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,112.05 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTปิดที่ 145.00บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท หรือ 4.32%
2.CBG ปิดที่ 76.75บาท เพิ่มขึ้น 4.25 บาท หรือ 5.86%
3.CPN ปิดที่ 68.25บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 4.60%
4.SAPPE ปิดที่ 70.25บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 4.07%
5.SCC ปิดที่ 241.00บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.84%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCB ปิดที่ 111.00บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.33
2.BH ปิดที่ 271.00บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.37%
3.EA ปิดที่ 8.95 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 5.29%
4.BCPปิดที่ 36.00บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.37อ
5.TCAPปิดที่ 50.75บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.98%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,004.45 จุด เพิ่มขึ้น 27.46 จุด หรือ 1.39% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 917.74 จุด เพิ่มขึ้น 12.84 จุด หรือ 1.42% และ ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 358.41 จุด เพิ่มขึ้น 4.42 จุด หรือ 1.25%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้วันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ยังบวกต่อเนื่อง ขานรับปัจจัยหนุนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยลงมา 0.50% ตามที่ตลาดให้น้ำหนักไว้ เป็นแรงหนุนต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเองมีแรงซื้อเข้าในหุ้นขนาดใหญ่ ที่ได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากดอกเบี้ยขาลง โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โรงไฟฟ้า และค้าปลีก ทำให้เป็นแรงหนุนต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ แม้ว่าปัจจัยในประเทศยังไม่มีเรื่องใหม่เข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ

"แนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะมีการพิจารณาดอกเบี้ยอย่างไร ซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้นภูมิภาค และค่าเงินเยน รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐด้วยเช่นกัน โดยประเมินแนวต้านที่ 1,460-1,465 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,435-1,440 จุด" นายชัยพร กล่าวทิ้งท้าย