หุ้นไทยแผ่วปลายปิดร่วง - 0.83 จุด นักวิเคราะห์เผยหุ้นไทยแกว่งแคบๆ สอดคล้องตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปีเท่าไหร่ หลังจากตลาดค่อนข้างเสียงแตกว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50% ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับ 1,420 จุด และแนวต่าน 1,445 จุด แนะจับตาผลการประชุมเฟด โดยเฉพาะประเด็นอัตราดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 18 ก.ย. 2567 ปรับตัวลดลง -0.83 จุด หรือ -0.06% โดยปิดตลาดที่ 1,435.77 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,568.28 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีแกว่งกรอบแคบตามภูมิภาค โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุด 1,446.52 จุด ในทิศทางตรงกันข้ามที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,432.91 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 238 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 175 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 253 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +3,493.56 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,468.81 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -164.60 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,860.15 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.EA มูลค่าการซื้อขาย 4,790.74 ล้านบาท ปิดที่ 9.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,199.78 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
3.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,898.76 ล้านบาท ปิดที่ 155.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
4.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,126.99 ล้านบาท ปิดที่ 63.75 บาท ลดลง 1.50 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,089.85 ล้านบาท ปิดที่ 64.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 272.00บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.12%
2.ADVANC ปิดที่ 260.00บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.39%
3.PTTEP ปิดที่ 137.00บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.74%
4.RCL ปิดที่ 23.50บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 3.98%
5.M ปิดที่ 29.25บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 2.63%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BBL ปิดที่ 155.00 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 2.21%
2.AEONTS ปิดที่ 139.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.42%
3.SCCปิดที่ 239.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 0.83%
4.CPALL ปิดที่ 63.75 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.30%
5.CENTEL ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.52%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,976.99 จุด ลดลง -2.83 จุด หรือ -0.14% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 904.90 จุด ลดลง -1.60 จุด หรือ -0.18% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 353.99 จุด ลดลง -0.26 จุด หรือ -0.07%
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบแคบๆ คล้ายตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ระหว่างนักลงทุนรอเกาะติดผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปีเท่าใด หลังจากตลาดค่อนข้างเสียงแตกว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50%
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ มีโอกาสปรับตัวลงรับ Sell on fact หลังรับรู้ข่าวเฟดไปแล้ว โดยเรามีมุมมองว่าหากเฟดลดดอกเบี้ย 0.50% ตลาดอาจไม่ได้ตอบรับเชิงบวกมากนัก เพราะจะเป็นปัจจัยกดดันในระยะต่อไป เนื่องจากเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลงมาก
"มองว่าหากเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% จะมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นๆ แต่จะเป็นการยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวไม่มาก โดยประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,420 จุด ส่วนแนวต้าน 1,445 จุด" นายวทัญ กล่าวทิ้งท้าย