ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น ประเมินไตรมาส 3 โตเด่นจากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลทำรายได้ 8 เดือนแรกสูงกว่าเป้าหมายรายได้ทั้งปีแล้ว ปัจจัยมาจากการเปิดให้บริการสำนักงานในมาเลเซียเพื่อขยายเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไปสหรัฐอเมริกา อัตราการเช่าพื้นที่คลังสินค้าเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 90% หลังปรับกลยุทธ์ และเพิ่มหัวลากรถขนส่งอีก 5 หัว มั่นใจปริมาณขนส่งสินค้าปี 2567 แตะ 5.3 หมื่นตู้ตามแผน
นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปัจจุบันมีทิศทางชะลอตัว อย่างไรก็ตามจากการวางแผนขยายธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เพิ่มศักยภาพบริหารต้นทุน ตลอดจนการปรับกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจให้บริการเช่าพื้นที่คลังสินค้า ได้ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 ที่รายได้มีแนวโน้มเติบโตกว่าไตรมาสก่อนหน้า แม้ปริมาณการขนส่งอาจลดลงเล็กน้อย ขณะที่ภาพรวมการดำเนินงาน 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.2567) เติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน โดยทำรายได้สูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้เกือบ 2,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนแล้ว และมั่นใจว่าจะสามารถขยายปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเป็น 53,000 ตู้ เพิ่มขึ้นกว่า 15% จาก 46,000 ตู้ในปี 2566
แนวโน้มรายได้ที่ดีในไตรมาส 3/2567 และช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มาจากการการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทได้ร่วมทุนจัดตั้งสำนักงานในประเทศมาเลเซียและเปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง SINO ถือหุ้น 51% เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจจากการขยายเส้นทางให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเลจากมาเลเซีย-สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันมีผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจและเริ่มรับรู้รายได้มายังบริษัทบ้างแล้ว โดยมีปริมาณขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเลแบบ FOB ไปสหรัฐฯ เฉลี่ยเดือนละ 150-200 ตู้ และอยู่ระหว่างขยายบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเลแบบ CIF ไปภูมิภาคอื่นๆ เช่น ยุโรป และเอเชีย
ขณะที่ธุรกิจให้บริการเช่าพื้นที่คลังสินค้าในพื้นที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี หลังจากปรับกลยุทธ์เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพบริหารต้นทุน ส่งผลให้อัตราการเช่าพื้นที่คลังสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 90% ของพื้นที่คลังสินค้าทั้งหมดประมาณ 20,000 ตารางเมตร และได้เพิ่มหัวลากอีก 5 หัวแก่รถขนส่งของบริษัท อินเตอร์คอนเนคชั่นส์ โลจิสติกส์ จำกัด (ICL) ในเครือ SINO ส่งผลให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าและบริหารต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับผลบวกจากค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นไตรมาส 3/2567 จากความต้องการเร่งขนส่งรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) จากจีนไปสหรัฐฯ ก่อนเริ่มปรับขึ้นอัตราภาษี อย่างไรก็ตาม แม้ว่าค่าระวางเรือในปัจจุบันทยอยปรับลดลง แต่บริษัทประเมินว่ามีแนวโน้มที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในไตรมาส 4/2567 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ซึ่งหลายประเทศจะนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในช่วงเทศกาลปลายปี
“เรามีความมั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 จะเติบโตได้ดีจากไตรมาสก่อนหน้า จากแผนงานขยายธุรกิจและการปรับกลยุทธ์ข้างต้น นอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมลงทุนในธุรกิจใหม่ ‘ลานเก็บตู้สินค้า’ เพื่อสร้างการเติบโตจากการขยายการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น” นายนันท์มนัส กล่าว