ฟู้ดโมเม้นท์ เดินหน้ากลยุทธ์ลุยธุรกิจสร้างการเติบโตที่มั่นคง เผยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ และนอร์ทเฮเว่น ไทยฯ ยังคงถือหุ้นในสัดส่วนเดิม พร้อมลงทุนระยะยาว เตรียมปิดดีลลงทุนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงปลายปีนี้และรับรู้รายได้ต้นปี68 เพื่อสร้าง New Growth ใหม่ เร่งขยายกำลังการผลิตรับออเดอร์ผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปและปรุงสุก ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20-25%ฟาก CFO เผยนักลงทุนสถาบันสนใจลงทุน หลังเห็นสัญญาณบวกพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง และเชื่อมั่นความสามารถในการทำกำไรในอนาคต
นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (FM) เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งครอบครัวดุษฎีโหนด และกองทุน นอร์ทเฮเว่น ไทย ไพรเวท อิควิตี้ โดมินิค คอมปานี (ฮ่องกง) (นอร์ทเฮเว่น ไทยฯ ) ยังคงถือหุ้น FM และพร้อมที่จะถือลงทุนระยะยาว เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตที่ดี โดยจากภาพรวมธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกส่งออกของประเทศไทยมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งของโลก และตลาดมีการขยายตัวทุกปี รวมทั้งมีแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจนในการสร้างการเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับแผนงานหลังระดมทุน บริษัทเปิดการเจรจากับผู้ผลิตในประเทศ เพื่อมุ่งสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) คาดว่าจะได้ความชัดเจนในปลายปีนี้ และดีลน่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกปี68 ซึ่งเบื้องต้นจะเข้าถือหุ้น 25-30%
“เรามองว่าขนาดธุรกิจที่เหมาะสมกับการลงทุนขณะนี้คือกำลังผลิต 2 พันตันต่อเดือน และคาดจะมียอดขายปีละ 1 พันล้านบาท และจะรับรู้ในไตรมาส 2 ปี68 นอกจากนี้ ได้เดินหน้าขยายกำลังการผลิตเพราะออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง ส่งผลให้ไลน์การผลิตที่ 5 กำลังการผลิตกว่า 70% ซึ่งเป็นทิศทางที่ดีตามแผนที่วางไว้ โดยเตรียมขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุกเพิ่มขึ้น 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 27,600 ตันต่อปีเป็น 36,000 ตันต่อปีในปี 69 ส่วนผลิตภัณฑ์ไก่ชำแหละเพิ่มขึ้น 25% จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 144,000 ตัวต่อวันเป็น 180,000 ตัวต่อวันในปี 69 อีกทั้งจะเตรียมส่งออกเนื้อดิบไปยังตะวันออกกลางในไตรมาส 4 ปีนึั“ นายณัฐพล กล่าว
สำหรับปีนี้เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก (2 digit) จากปีก่อน จากกลยุทธ์การขยายกำลังการผลิต (Capacity Expansion) ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่น เพิ่มประสิทธิภาพ สายการผลิตเดิมและเพิ่มไลน์การผลิตใหม่ของโรงงานแปรรูปไก่ปรุงสุก (CAV Products) และโรงเชือดและชำแหละไก่ รวมทั้งการลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง หรือธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์พลอยได้ โดยยังความสำคัญด้านการผลิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Food Technology) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและผลกำไร
นายสุเมธ มาสิลีรังสี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน FMกล่าวว่า บริษัทฯ ได้รับการติดต่อจากนักลงทุนสถาบันในประเทศ แสดงความสนใจในการเข้าลงทุน สอบถามรายละเอียดข้อมูลธุรกิจ สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง ความชัดเจนแผนการดำเนินงานและเป้าหมายธุรกิจที่วางไว้ หลังงวด 6 เดือนแรกปี 67 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 226 ล้านบาท คิดเป็น 155% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 3,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 725 ล้านบาท คิดเป็น 25% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,900 ล้านบาท รวมทั้งการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.15 บาท
สำหรับปีนี้ PM ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 6,900-7,000 ล้านบาทหรือเติบโตจากปีก่อน 20-25% ส่วนกำไรสุทธิคาดเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก หลังจากเพิ่มการผลิตสินค้ามาร์จิ้่นสูง ส่วนปี 68 คาดรายได้เติบโต 10-15%