นายอำนวย จิรมหาโภคา ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์ 1 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับ บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจการเกษตร โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "PCE" ในวันที่ 12 กันยายน 2567
PCE ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ในธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร แบ่งเป็น 1) กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันไบโอดีเซล และน้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อการบริโภค รวมถึงการซื้อและจำหน่ายต่อของน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้ลูกค้าทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ 2) กลุ่มธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ 3) กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางรถ และ 4) กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ
PCE มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO 2,750 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนรวม 750 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย ผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อย และนักลงทุนสถาบันและบุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ในระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม และ 2-6 กันยายน 2567 ในราคาหุ้นละ 2.28 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,710 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 6,270 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (PE ratio) เท่ากับ 18.94 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2566-30 มิ.ย.2567 ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 331.22 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญหลังเสนอขาย คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.12 บาทต่อหุ้น โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PCE เปิดเผยว่า การระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินให้บริษัท โดย PCE จะนำเงินไปใช้ลงทุนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ เครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อขยายกำลังการผลิต ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ และใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม PCE
PCE มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ กลุ่มครอบครัวประสิทธิ์ศุภผล ถือหุ้นรวม 72.73% โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกระแสเงินสด แผนการลงทุน เงื่อนไขทางกฎหมาย และปัจจัยอื่นๆ ในอนาคต