xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ การันตีวายุภักษ์หนุน SET ทะยานแตะ 1,500 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โบรกเกอร์คาดกองทุนวายุภักษ์ช่วยดัน SET แตะ 1,500 จุด บวกปัจจัยขับเคลื่อนทางการเมืองที่ชัดเจน ประเมินเม็ดเงินใหม่จะเข้าตลาดช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ประมาณ 1.2-1.7 แสนล้านบาท เป็นเงินจากกองทุนวายุภักษ์ 1-1.5 แสนล้านบาท พร้อมเปิดโผหุ้นที่คาดเม็ดเงินวายุภักษ์เข้ามาสุด SCB TTB KTB BCP PTT นำทีม

วานนี้ (9 ก.ย.) กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดขายนักลงทุนรายย่อย 16-20 ก.ย.นี้ ผ่าน 8 สถาบันการเงิน ที่ราคาหน่วยละ 10 บาท โดยเริ่มต้นขั้นต่ำที่ 1,000 หน่วย หรือคิดเป็นมูลค่า 10,000 บาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศ 25-27 ก.ย.67 ในวงเงินเสนอขายรวม 1.5 แสนล้านบาท อัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ 3.0% ต่อปี และขั้นสูงไม่เกิน 9.0% ต่อปี คงที่ตลอด 10 ปี จัดสรรแบบ Small Lot First โดยคาดว่าจะเข้าเทรดในตลาดหุ้นวันที่ 7 ต.ค.67

สำหรับนโยบายการลงทุนในหนังสือชี้ชวน แบ่งการลงทุนเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย 1.หลักทรัพย์สภาพคล่อง เช่น เงินฝากตราสารหนี้ระยะสั้น 2.หลักทรัพย์เชิงรุก/เชิงรับ เช่น หลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น หุ้นใน SET100 ที่ SET ESG Rating A หุ้นนอก SET100 ที่ SET ESG RatingAA ขึ้นไปเป็นต้น และ 3.หลักทรัพย์อื่นๆ Non-Investment Grade Bond, Unrated Securities ได้ไม่เกิน 10% ของ NAV

โดย Single Entity Limit ของหุ้นรายตัวที่จดทะเบียนในไทยถือได้ไม่เกิน 25% ของ NAV และกลุ่มกิจการ (Group Limit) กำหนดให้ไม่เกิน 30% ของ NAV

เอเซียพลัสคาดวายุภักษ์ดัน SET ทะลุ 1,500 จุด

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ จาก บล.เอเซียพลัส ประเมินว่า เม็ดเงินต่างชาติ (FUND FLOW) มีโอกาสไหลเข้าตลาดต่อเนื่อง ทั้งประเด็น กองทุนวายุภักษ์ และอ้างอิงตามทิศทางดอกเบี้ยหลายประเทศ ดังนั้น ตราบที่ FUND FLOW ไหลเข้า เป้าหมาย SET มีโอกาสทะลุ 1,500 จุด แนะนำหุ้น VAYU PLAY ดังนี้

1.หุ้นที่กองทุนวายุภักษ์เดิมถือเยอะ และมี ESG RATING “AAA” คือ PTT, BCP, KTB, ADVANC, SCC, KBANK, CRC, CPF, SCGP, OR

2.หุ้นที่กองทุนวายุภักษ์เดิมถือ และมี ESG RATING พร้อมกับมี SENTIMENT สนับสนุนในช่วงนี้ ได้แก่ หุ้น LAGGARD แนะนำ PTT, SCC, SCGP, IVL, LH หุ้นรับวัฏจักรดอกเบี้ยลง MTC, TISCO หุ้น ANTI OIL GULF BGRIM, OR และหุ้นกำไร 3Q67 เด่น BCH, PLANB

เมย์แบงก์ฯ คาดวายุภักษ์ดัน SET 150-200 จุด

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ จาก บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) คาดว่า เม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ที่จะเริ่มเข้าตลาดในช่วง ต.ค.67 จะผลักดัน SET ได้ราว 150-200 จุด หุ้นที่ได้ประโยชน์หลายบริษัทได้ปรับขึ้นไปแรง ในเชิงกลยุทธ์จึงเลือกหุ้นที่คาดมีเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์เข้าหนุนแต่ตลาดยังมองข้าม โดยใช้เกณฑ์คัดกรอง YTD Return

สำหรับหุ้นที่คาดว่ามีเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ไหลเข้าสูงสุด 20 อันดับแรก ภายใต้สมมติฐาน เม็ดเงินเข้ากองทุนวายุภักษ์ 1.5 แสนล้านบาท ได้แก่ SCB จำนวน 37,079 ล้านบาท TTB จำนวน 14,469 ล้านบาท KTB จำนวน 8,857 ล้านบาท BCP จำนวน 8,617 ล้านบาท PTT จำนวน 5,066 ล้านบาท AOT จำนวน 5,058 ล้านบาท ADVANC จำนวน 4,524 ล้านบาท BDMS จำนวน 2,407 ล้านบาท BSRC จำนวน 2,350 ล้านบาท GULF จำนวน 2,294 ล้านบาท

KBANK จำนวน 1,919 ล้านบาท SCC จำนวน 1,850 ล้านบาท BBL จำนวน 1,583 ล้านบาท CPN จำนวน 1,516 ล้านบาท TRUE จำนวน 1,494 ล้านบาท CPF จำนวน 1,436 ล้านบาท BH จำนวน 1,240 ล้านบาท MINT จำนวน 1,153 ล้านบาท CRC จำนวน 1,142 ล้านบาท และ SCGP จำนวน 903 ล้านบาท

กรุงศรีมองเม็ดเงินจากวายุภักษ์-TESG เข้า Q4/67

ด้าน บล.กรุงศรี ระบุว่า แนวโน้มกระแสเชิงบวกจากการลงทุนด้วยธีม ESG จะได้รับความนิยม เพิ่มขึ้นนับจากนี้ไป จากแรงหนุน

1.กองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG หลักเกณฑ์ใหม่ ปรับเงื่อนไขให้สิทธิซื้อเพิ่มลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้นทั้งเม็ดเงินและสัดส่วนเทียบกับฐาน รายได้ ผสานระยะเวลาการถือครองเพื่อลงทุน พร้อมรับสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษีสั้นลง คาดส่งผลบวกมีเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ตลาดหุ้นไม่ต่ำกว่า LTF ในอดีต โดยเราประเมินปีละ 7.8 หมื่นล้านบาท

2.กองทุนวายุภักษ์ 1-1.5 แสนล้านบาท ที่กลับมาเสนอขายนักลงทุนทั่วไปภายในไตรมาส 3/67 นี้ ซี่งนโยบายลงทุนจะประกอบด้วยการลงทุน Passive หุ้นที่มีผลประกอบการและกระแสเงินสดที่มีความมั่นคง สูง และการลงทุนแบบ Active ขณะที่ในด้านหนึ่งเกณฑ์การลงทุนในหุ้นที่มี ESG จะถูกนำมาพิจารณาเพิ่มเติม

โดย Analysis ประเมินว่าเม็ดเงินใหม่ที่กำลังเข้าสู่ตลาดหลักๆ 2 ส่วนในปี 2024 ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/67 สูงถึงราว 1.2-1.7 แสนล้าน บาท (กองทุนวายุภักษ์ 1.0-1.5 แสนล้านบาท บวกกับเม็ดเงินกองทุน ThaiESG มีผล 3 เดือน เดือนละ 6-7 พันล้านบาท) ต่อยอดด้วยเม็ดเงิน ThaiESG เต็มปีในปี 2025 อีก 7.8 หมื่นล้านบาท น่าจะหนุน SET ที่ ปัจจุบันมีปัจจัยขับเคลื่อนการเมืองภายในชัดเจน และรัฐบาลใหม่ค่อนข้างมีเสถียรภาพมากขึ้น

กลยุทธ์แนะนำลงทุนในหุ้น 4 กลุ่มดังต่อไปนี้

1.หุ้นที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และมี แนวโน้มเติบโตดีในช่วง 2024-2025 ได้แก่ AOT, PTT, KTB

2.หุ้นที่อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และซื้อขายในระดับ Valuation Zone รวมถึงมีแนวโน้มการเติบโตดี ได้แก่ CPALL, SCC, MINT, CRC, HMPRO

3.หุ้นที่มีน้ำหนักใน SETESG สูงและมีแนวโน้มการเติบโตดี อยู่ใน Theme Data Center ได้แก่ ADVANC, GULF มีโอกาสเป็นเป้าหมาย

4.หุ้นได้ประโยชน์กองทุนวายุภักษ์ Theme ที่ 4 คือ Div Yield 2024-2025 สูง >5% และอยู่ ใน ThaiESG หุ้น (KBANK, BBL, HMPRO, INTUCH)


กำลังโหลดความคิดเห็น