xs
xsm
sm
md
lg

“ราคาหุ้นตอบสนองต่อทุกเหตุการณ์” โดย คุณนารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ลิเบอเรเตอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บทความโดย คุณนารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ที่มา: บล.ลิเบอเรเตอร์
ติดตามบทวิเคราะห์หลากหลายมิติครบทุกประเภทสินทรัพย์กับทีมนักวิเคราะห์ได้ตลอดเดือนที่
Website Liberator : https://www.liberator.co.th/research


ราคาหุ้นตอบสนองต่อทุกเหตุการณ์เสมอ :

คำ ๆ นี้เรามองว่าจริงสำหรับตลาดหุ้นฯ เพราะไม่ว่าจะมีเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่ส่งผลต่อภาพรวมของตลาดฯ และข่าวที่ส่งผลกระทบต่อหุ้นรายตัว ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านบวกหรือลบ จะพบว่าปัจจัยดังกล่าวที่มีความเกี่ยวข้องนั้นมักจะสะท้อนสู่ราคาหุ้นเสมอไม่มากก็น้อย โดยเรารวบรวมเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่ต้องติดตามและจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นดังนี้

1) การประกาศผลการดำเนินงาน : หากการดำเนินงานออกมาต่ำกว่าคาด ราคาหุ้นอาจตอบสนองได้ทั้งบวกและลบ เช่น หากคาดการณ์ดำเนินงานกำลังผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และตลาดรับรู้งบที่ออกมาจะไม่ดีไปแล้ว กรณีนี้จะทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นได้ (Buy on fact) แต่หากช่วงที่เหลือของปียังไม่ฟื้น ราคาหุ้นจะปรับลงต่อจากกำไรต่ำคาด

2) ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์ : หากมีการแจ้งข่าวต่อตลาดฯ ถ้าข่าวที่ออกมามีแนวโน้ม “บวก” อาจทำให้ราคาหุ้นปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม หากมีการเก็งกำไรจากข่าวดังกล่าวมาก่อนหน้าแล้ว พอมีการแจ้งข่าวออกมาอาจถูกขายทำกำไรได้ (Sell on fact)

3) การประชุมนักวิเคราะห์ : เวลามีการประชุมนักวิเคราะห์ทั้งจากการคาดการณ์งบ (Preview) รวมถึงการประชุมนักวิเคราะห์หลังงบออก (Review) ซึ่งผู้บริหารจะมาชี้แจงและให้มุมมองต่อการดำเนินงานไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านบวกหรือลบซึ่งจะส่งผลต่อราคาหุ้น เพราะข้อมูลที่ได้มานั้นอาจมีผลให้นักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการขึ้นหรือลงได้ (Upgrade/ Downgrade momentum)

4) การประกาศตัวเลขสำคัญ ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ : เช่น การประกาศตัวเลขส่งออก, ดัชนีความเชื่อมั่น, ตัวเลขนักท่องเที่ยว และ GDP เป็นต้น ซึ่งตัวเลขที่ประกาศมานั้น สำหรับตลาดไทยนั้น หากตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและการลงทุนในประเทศจะส่งผลโดยตรงต่อราคาหุ้นที่อิงกับการบริโภคในประเทศเป็นหลัก อาทิ กลุ่มค้าปลีก ธนาคาร และท่องเที่ยว เป็นต้น แต่หากตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกดีขึ้นจะส่งผลต่อหุ้นกลุ่มส่งออก เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์, อาหาร เป็นต้น

ขณะที่ตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ เช่น ตัวเลขส่งออกของจีนดีขึ้น จะส่งผลต่อราคาหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับจีนมีทิศทางที่ดีขึ้นเช่น กลุ่มปิโตรเคมี (IVL, PTTGC, SCC, SCGP, PSL, WICE, RCL เป็นต้น)

5) การประกาศนโยบายของรัฐบาล : จากการประกาศนโยบายของรัฐบาลที่ออกมาทำให้ตลาดจะมองทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยว่าจะเป็นอย่างไรตามนโยบายที่ประกาศมา อย่างกรณีล่าสุดที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมามากกว่า 50 จุด หลังจากคุณเศรษฐาถูกถอดถอนจากการเป็นนายกรัฐมนตรี และเราได้นายกคนใหม่ที่เร็วมาก คือคุณแพรทองธาร ชินวัตร ซึ่งตลาดมีความเชื่อมั่นต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อจากนี้ภายใต้การให้คำปรึกษาของคุณทักษิณ ชินวัตร ประกอบกับที่คุณทักษิณได้ไปแสดงวิสัยทัศน์ในงาน “Vision for Thailand” ถึงแผนการลงทุนและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศหลังจากนี้ทำให้ตลาดกลับมามีความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง

6) ราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น : ราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อการดำเนินงานให้ดีขึ้นโดยส่วนใหญ่จะบวกต่อกลุ่มเกษตรและอาหาร เช่น ราคาเนื้อสัตว์, ราคายางพารา, ราคาถั่วเหลือง และราคาน้ำตาล เป็นต้น แต่ในทางกลับกันบางอุตสาหกรรมอาจได้รับผลจากราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มที่นำเอาผลิตภัณฑ์มาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้า ราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่ม เช่น กลุ่มร้านอาหาร, กลุ่มผู้ผลิตยางล้อ, กลุ่มเครื่องดื่ม เป็นต้น

7) นโยบายการเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย : หากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และประกันภัย เนื่องจากกำไรจะเพิ่มขึ้นจากส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) และผลตอบแทนสูงขึ้นจากการนำเบี้ยประกันไปลงทุนในตราสารหนี้ แต่จะส่งผลลบต่อหุ้นที่มีภาระหนี้สูง ๆ เช่น กลุ่มเช่าซื้อ และโรงไฟฟ้าจากการมีหนี้สินในสัดส่วนที่สูงทำให้ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น และการปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้นจะส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นด้วยเป็นปัจจัยลบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก

8) ธีมการลงทุน : บางช่วงเวลาหุ้นบางกลุ่มจะเคลื่อนไหวตามเหตุการณ์หรือความคาดหวังของตลาดว่าจะดีต่ออุตสาหกรรม เช่น หุ้นรับหน้าร้อน, หุ้นรับกระแสบอลโลก, หุ้นรับน้ำท่วม การเปิดตัวสินค้าใหม่ของ iPhone เป็นต้น จะทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องได้รับปัจจัยผลักดันให้ราคาปรับขึ้น

9) การขึ้นเครื่องหมายสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ : กรณีการขึ้นเครื่องหมายสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของบริษัทจดทะเบียน เช่น XD, XR, XA ซึ่งตามปกติราคาหุ้นจะปรับลงเท่ากับประโยชน์, มูลค่าของสิทธิ์ หรือจำนวนเงินปันผลที่มีการจ่ายให้ผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธินั้น ๆ

10) ข่าว, เหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อหุ้น : หากมีเหตุการณ์ หรือข่าวที่เกิดขึ้นและส่งผลต่อกลุ่มอุตสาหกรรม หรือหุ้นนั้น ๆ ทั้งด้านบวกหรือลบ แม้ว่าในบางครั้งจะยังไม่เห็นผลทันทีแต่ราคาหุ้นมักตอบสนองทันทีกับข่าวที่เกิดขึ้น เช่น ข่าวการเข้ามาลงทุนของบริษัทต่างชาติในไทย จะดีต่อหุ้นกลุ่มนิคม รวมถึงหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องว่าจะได้อานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตมาไทยจากการเป็นลูกค้ากันอยู่แล้ว

11) การปรับหุ้นเข้าออกในดัชนีต่าง ๆ : หุ้นที่ถูกปรับเพิ่ม/ลดน้ำหนักการลงทุน รวมถึงการนำหุ้นเข้า/ออกของดัชนีสำคัญ ๆ เช่น MSCI, FTSE เป็นต้น และการปรับหุ้นเข้า/ออกจากการคำนวณของดัชนี SET50, SET100 เป็นต้น ซึ่งจะมีผลต่อราคาหุ้นหากถูกนำเข้าหรือถอดออกจากดัชนีดังกล่าว

โดยดัชนี MSCI จะประกาศหุ้นเข้าออกประมาณวันที่ 12 ของเดือน ก.พ., พ.ค., ส.ค. และพ.ย. ของทุกปี แต่จะมีผลราวปลายเดือนนั้น ๆ ส่วนดัชนี FTSE จะประกาศหุ้นเข้าออกหลัง MSCI ประกาศไปราว 2 สัปดาห์

ดัชนี SET50, SET100 จะประกาศปีละ 2 ครั้ง ราวกลางเดือนมิ.ย. และกลางเดือนธ.ค. จะมีผล 6 เดือน (1 ม.ค.-30 มิ.ย.) และ (1 ก.ค.-31 ธ.ค.)

เรามองว่าเหตุการณ์ที่เรารวบรวมมานั้นทั้งปัจจัยเฉพาะตัว หรือภาพรวมเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยแรก ๆ ที่ส่งผลต่อราคาหุ้นทั้งด้านบวกและลบเสมอ ซึ่งบางครั้งแม้ว่าสิ่งที่ออกมาจะดีกว่าหรือมีมุมมองเป็นบวกก็ตาม แต่ราคาหุ้นกลับปรับลง ซึ่งเขาเรียกว่า “Sell on fact” หมายถึงความจริงปรากฏออกมาแล้ว ดังนั้นการเข้าใจความคาดหวังของตลาด (Expectation) จึงมีความสำคัญมาก โดยการเรียนรู้และเข้าใจในปัจจัยต่าง ๆ ที่เราได้รวบรวมมาว่าจะส่งผลต่อราคาหุ้นได้ โดยเฉพาะบางเหตุการณ์ที่มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนก็จะทำให้เราจับจังหวะในการลงทุนได้แม่นยำขึ้นค่ะ

คาดการณ์ช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์ที่จะส่งผลต่อราคาหุ้น


Source : SET, MSCI, FTSE, LIB Research

เพื่อนๆสามารถอ่านบทความการลงทุน LIB of The Month ประจำเดือน กันยายน 2567 แบบฉบับเต็ม จากทีมงานนักวิเคราะห์ลิเบอเรเตอร์ท่านอื่นๆได้ที่ liberator.co.th/article/view/lib-of-the-month-september-2567

และ สามารถติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในโลกลงทุนทั้งในประเทศ และ ทั่วโลกได้ตลอดวัน ผ่านช่องทาง

Facebook Page : www.facebook.com/Liberator.co.th/

X Platform : https://x.com/th_liberator

เปิดบัญชีใหม่ https://go.liberator.co.th/xlnX/LOpenAcc

มีพอร์ตกับลิเบอเรเตอร์ได้อะไรบ้าง..?

#เทรดคุ้มกับค่าคอมเบาๆทั้งแบบจ่ายตามจริงหุ้นไทยเริ่มต้น 0.06% และคุ้มยิ่งขึ้นกับแพคเกจแบบเหมาจ่ายรายเดือน LIBFAM Subscription Model #คอมมูนิตี้กิจกรรมทุกเดือน กินข้าว ดูหนัง เตะบอล เล่นบาส คลาสสัมมนา และ อีกมากมาย #เข้าถึงคลังความรู้ออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มของลิเบอเรเตอร์ LIB Academy ดูย้อน ดูซ้ำ เรียนได้ไม่จำกัด
กำลังโหลดความคิดเห็น