จากคดีฉาวที่เกิดขึ้นกับ นายจ้าวฉางเผิง หรือ CZ และไบแนนซ์ จนทำให้มีการสั่งปรับเป็นจำนวนมหาศาล ตามข้อตกลงรับสารภาพที่ยื่นในเดือนพฤศจิกายน 2566 และศาลได้มีคำสั่งห้าม อดีต CEO "มีส่วนร่วมในปัจจุบันหรืออนาคตในการดำเนินงานต่างๆทั้งหมดของไบแนนซ์"
จากการเปิดเผยของ cointelegraph ระบุถึงการแถลงของเจ้าหน้าที่เรือนจำของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะมีการปล่อยตัว นายฉางเผิงจ้าวหรือ CZ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยเขาอาจถูกสั่งห้ามดำเนินงานหรือบริหารจัดการกระดานแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลไบแนนซ์อย่างถาวร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงรับสารภาพกับอัยการ
ตามรายงานของ Axios วันนี้ ( 5 กันยายน) นายริชาร์ด เทง ซีอีโอของไบแนนซ์ กล่าวว่า CZ ถูกแบนตลอดชีวิต จากการบริหารหรือดำเนินการแลกเปลี่ยน ไม่ใช่แค่ 3 ปีเท่านั้น ตามที่สำนักข่าวหลายแห่งรายงานไปก่อนหน้านี้
โดยในรายงานระบุว่า ไบแนนซ์ยืนยันว่าอดีต CEO ถูกห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งฝ่ายบริหารในบริษัท แม้ว่าจะไม่ปรากฏว่าได้รับคำสั่งชัดเจนจากข้อตกลงรับสารภาพของนายจ้าว หรือ ไบแนนซ์ ก็ตาม
ข้อตกลงรับสารภาพของ CZ
ในเดือนพฤศจิกายน 2566 ทางการสหรัฐฯได้ประกาศข้อตกลงมูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์กับไบแนนซ์ โดยนายจ้าว รับสารภาพผิดในข้อกล่าวหาอาญาหนึ่งข้อที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดพระราชบัญญัติความลับของธนาคาร ซึ่งต่อมาในเดือนเมษายน ผู้พิพากษาได้ตัดสินจำคุกอดีตซีอีโอเป็นเวลาสี่เดือน คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 29 กันยายน
ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น CZ ต้องก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของไบแนนซ์ ตามข้อตกลงรับสารภาพ และถูกแทนที่โดย นายริชาร์ด เทง ซึ่งนายจ้าวกล่าวในตอนนั้นว่า "เขาพร้อมให้คำปรึกษาแก่ทีมงานตามความจำเป็น" แต่การก้าวลงจากตำแหน่ง CEO เพื่อให้ ไบแนนซ์ "เดินหน้าและดำเนินการต่อไป"
ตามข้อตกลงรับสารภาพของไบแนนซ์ที่ยื่นเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน บริษัทคริปโตตกลงว่า CZ จะถูกห้ามไม่ให้ "มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหรือการจัดการ" ของกระดานแลกเปลี่ยนในปัจจุบันหรือในอนาคต อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกระบุว่าเป็น "การพิจารณา" ของอัยการในฐานะส่วนหนึ่งของ "มาตรการแก้ไข" ที่ Binance ได้ดำเนินการ และไม่ใช่ข้อกำหนดทางกฎหมาย
ทั้งนี้ในข้อตกลงการพิจารณาคดี กำหนดให้นายจ้าว จ่ายเงินให้หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เป็นเงิน 50 ล้านดอลลาร์ เป็นการส่วนตัว อย่างไรก็ตาม คดีของไบแนนซ์ กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงเดือนกันยายน 2566 แม้จะมีคำวินิจฉัยของศาลฎีกาเมื่อไม่นานนี้ ที่อาจจำกัดอำนาจของ SEC ในคดีบังคับใช้กฎหมายคริปโตก็ตาม