ยอดสถิติการโจมตีแบบฟิชชิ่งซึ่งถือเป็น 2 ครั้งที่ใหญ่ที่สุด มูลค่าความเสียหายกว่า 93.5% ของเงินที่ถูกขโมยทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่ามากถึง 293.4 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1 หมื่นล้านบาท
จากการเปิดเผยของ cointelegraph ระบุว่า แฮกเกอร์ขโมยสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลมูลค่ากว่า 313.86 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 10,745 ล้านบาท โดยในการโจมตีทางไซเบอร์มากกว่า 10 ครั้งในเดือนสิงหาคม ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการยอมรับสินทรัพย์ประเภทนี้ในวงกว้างมากขึ้น
ตามรายงานของบริษัทรักษาความปลอดภัยของบล็อคเชน PeckShield ระบุว่าการโจมตีแบบฟิชชิ่งเพียงอย่างเดียวคิดเป็น 93.5% ของเงินทุนที่ถูกขโมยทั้งหมด ส่งผลให้สูญเสียเงินไปถึง 293.4 ล้านดอลลาร์
จากการแฮ็ก 5 อันดับแรกในเดือนสิงหาคม การโจมตีแบบฟิชชิ่ง 2 ครั้งทำให้สูญเสีย Bitcoin มูลค่า 238 ล้านดอลลาร์ และ Dai มูลค่า 55.4 ล้านดอลลาร์
ขณะที่การสูญเสียที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การใช้ประโยชน์จาก Ronin Network ซึ่งกู้คืนเงินได้ 12 ล้านดอลลาร์จากแฮกเกอร์ แต่เกิดธุรกรรมคริปโตที่ไม่ได้รับอนุญาตมูลค่า 5.1 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ โปรโตคอลการเงินแบบกระจายอำนาจ Nexera ยังสูญเสียเงิน 1.83 ล้านดอลลาร์จากการใช้ประโยชน์จากสัญญาอัจฉริยะ
ความสูญเสียจากการโจมตีทางไซเบอร์ยังคงเป็นประเด็นที่น่ากังวล
โดยในรายงานของ Immunefi ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมอุตสาหกรรมคริปโตสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่า 1.21 พันล้านดอลลาร์จากการแฮ็กและการขโมยข้อมูลตั้งแต่ต้นปี (YTD) จนถึงเดือนสิงหาคม 2567
ขณะที่ในเดือนกรกฎาคม การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล WazirX ของอินเดียตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในปี 2567 ทำให้ WazirX สูญเสียเงิน 234.9 ล้านดอลลาร์ จากกระเป๋าเงินมัลติซิกหนึ่งใบ ปัจจุบันการแลกเปลี่ยนกำลังดำเนินการตามแผนเป็นระยะเพื่อฟื้นฟูการดำเนินงานทางการเงินความพยายามในการปรับโครงสร้างของ WazirX รวมถึงการดำเนินคดีทางกฎหมายในสิงคโปร์
แฮกเกอร์หมวกขาว รวมตัวกันหวังปกป้องอุตสาหกรรม
เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลจากการสูญเสียทางการเงินอันเนื่องมาจากการโจมตีของแฮ็กเกอร์ ทีมแฮกเกอร์หมวกขาวที่ยึดมั่นในจริยธรรมการปกป้องความเสียหายจากการโจมตี ได้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้น เพื่อเสริมสร้างการป้องกันและป้องกันการละเมิด โดยทีมตอบสนองต่อต้านการแฮ็ก Security Alliance หรือ SEAL นำโดย Samczsun แฮกเกอร์หมวกขาวและนักวิจัย Paradigm และได้รับรายงานการโจมตีที่เกี่ยวข้องกับการแฮ็กมากกว่า 900 ครั้งนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2566
ตามรายงานของ Immunefi เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พบว่าสกุลเงินดิจิทัลเกือบ 80% ไม่สามารถฟื้นคืนมูลค่าได้หลังจากถูกแฮ็กหรือถูกโจมตี ซึ่งการสูญเสียมูลค่าดังกล่าว มักสร้างความเสียหายให้กับโครงการมากกว่าการถูกโจมตีเสียอีก
