xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดหุ้นไทยพุ่ง +10.96 จุด ขานรับ ครม.ใหม่พร้อมเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด +10.96 จุด นักวิเคราะห์มอง ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นโดดเด่นกว่าตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่เป็นลบ โดย SET ขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 1,370 จุด หลังมีความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล คาดทูลเกล้าฯได้ภายใน 1-2 วันนี้ หวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจกระตุ้นการลงทุนได้เร็วขึ้น ทั้ง Digital Wallet กองทุนวายุภักษ์ คาดว่าจะความคืบหน้าภายในเดือน ก.ย.นี้ ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับ 1,360-1,350 จุด แนวต้านที่ 1,372 จุด แนะจับตามีโอกาสสูงที่ดัชนีจะอ่อนตัวลง เนื่องจากดาวโจนส์ฟิวเจอร์สลบไปกว่า 100 จุด อาจมีแรงเทขายทำกำไร เนื่องจากใกล้ดีเบตศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐ

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 3 ก.ย. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.96 จุด หรือ +0.81% โดยปิดตลาดที่ 1,364.60 จุด มูลค่าซื้อขาย 42,261.36 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นโดดเด่นกว่าภูมิภาค โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,370.04 จุด ในทิศทางตรงกันข้ามที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,354.26 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 341 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 187 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 134 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,380.84 ล้านบาท และ นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -699.64 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +417.99 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,662.48 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,133.64 ล้านบาท ปิดที่ 144.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,480.32 ล้านบาท ปิดที่ 139.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
3.IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,392.14 ล้านบาท ปิดที่ 19.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,162.59 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,141.41 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EGCO ปิดที่111.00บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 3.74%
2.KBANK ปิดที่144.00บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.77%
3.ADVANC ปิดที่248.00บาท เพิ่มขึ้น2.00 บาท หรือ 0.81%
4.SAPPE ปิดที่71.50บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 2.14%
5.AEONTS ปิดที่126.50บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.20%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่227.00บาท ลดลง1.00 บาท หรือ 0.44%
2.JMARTปิดที่15.50บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 3.13%
3.PTTEP ปิดที่139.50บาท ลดลง0.50 บาท หรือ 0.36%
4.EA ปิดที่6.10บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 3.17%
5.CK ปิดที่18.80บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 1.05%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,874.85 จุด เพิ่มขึ้น 14.69 จุด หรือ 0.79% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 860.21 จุด เพิ่มขึ้น 6.06 จุด หรือ 0.71% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 331.80 จุด เพิ่มขึ้น 4.14 จุด หรือ 1.26%

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างโดดเด่นกว่าตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่เป็นลบ โดย SET ขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดเดิมของรอบที่แล้วที่ 1,370 จุด เนื่องจากมีความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลคาดว่าจะทูลเกล้าฯได้ภายใน 1-2 วันนี้ ทำให้แนวโน้มการดำเนินการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะทำได้เร็วขึ้น ทั้ง Digital Wallet กองทุนวายุภักษ์ คาดว่าจะความคืบหน้าภายในเดือน ก.ย.นี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดรับรู้ปัจจัยบวกมากแล้วอาจมีจังหวะย่อตัว แนะระวังความเสี่ยงการขายทำกำไรออกมาบริเวณบวก-ลบ 1,370 จุด และคืนนี้ก็ต้องติดตามโมเมนตัมจากตลาดหุ้นสหรัฐหลังจากวานนี้ปิดทำการในวันแรงงาน หากดาวโจนส์บวกก็จะทำให้ดัชนี SET บวกต่อได้ แต่ถ้าดาวโจนส์ขยับตัวลงตลาดหุ้นไทยก็อาจจะเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาได้

"แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้มีโอกาสค่อนข้างสูงที่จะอ่อนตัว เนื่องจากดาวโจนส์ฟิวเจอร์สลบไปกว่า 100 จุด อาจมีแรงเทขายทำกำไร เนื่องจากใกล้ดีเบตศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐ ให้แนวรับ 1,360-1,350 จุด แนวต้านที่ 1,372 จุด" นายณรงค์เดช กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น