มีรายงานว่า JPMorgan Chase ยอมขาดทุน เทขายการลงทุนสินทรัพย์ในอสังหาริมทรัพย์ครั้งใหญ่ในลอสแองเจลิส ทำให้ขาดทุนกว่า 29,900,000 ดอลลาร์จาก
ตามรายงานของ The Real Deal แผนกจัดการการลงทุนของ JPM ได้ขายคอมเพล็กซ์อพาร์ทเมนท์ขนาดใหญ่พร้อมพื้นที่ขายปลีกในย่านลิตเติ้ลโตเกียวของแอลเอโดยทำข้อตกลงกับ “เจ้าของที่ดินรายใหญ่”
บันทึกแสดงให้เห็นว่าธนาคารซื้ออาคารชุดเลขที่ 232 East 2nd Street ในราคาประมาณ 116 ล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้ขายออกไปในราคา 86.1 ล้านดอลลาร์ ทำให้ขาดทุนจากมูลค่าที่ลดลง 29.9 ล้านดอลลาร์
ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นการขาดทุนหลายล้านดอลลาร์ ครั้งล่าสุดในตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่กำลังประสบปัญหา ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นเวลานาน
การขายอาคารสำนักงานเมื่อเร็ว ๆ นี้น่าประหลาดเป็นพิเศษ เนื่องจากอัตราการเข้าใช้พื้นที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อเดือนที่แล้ว อาคารที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งใน เซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ขายไปในราคาเพียง 3.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากขายไปในราคา 205 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี 2549
นอกจากนี้ Allstate เพิ่งขายอาคารธุรกิจในชิคาโกไปในราคาประมาณ 11 ล้านดอลลาร์ หลังจากซื้อมาในราคา 29.7 ล้านดอลลาร์ในปี 2022
ในขณะเดียวกัน ตามรายงานล่าสุดของนิวยอร์กไทมส์ ระบุว่าธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังขายสินเชื่อด้านอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์อย่างเงียบๆ เพื่อลดการขาดทุน โดยในรายงานดังกล่าว ระบุถึงการขายสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ล่าสุดในนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก และบอสตัน โดย Goldman Sachs และ Citigroup และ Capital One
ในกรณีนี้ JPMorgan ซื้อและขายโครงการทั้งหมดให้กับ FPA Multifamily ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของอาคาร 770 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา และดำเนินการกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศในระหว่างที่ตลาดตกต่ำ
ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ FPA ได้ทำธุรกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาเป็นมูลค่าประมาณ 24,000 ล้านดอลลาร์