xs
xsm
sm
md
lg

ปิดฉากฟ้องแพ่ง “อินไซเดอร์-ปั่นหุ้น” / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอแก้กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเพิ่มอำนาจ ก.ล.ต.ในการฟ้องดำเนินคดีความผิดในตลาดหุ้น ซึ่งจะทำให้การปราบปรามและการลงโทษผู้กระทำผิดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากขึ้น

ปัจจุบัน เมื่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบพฤติกรรมที่เข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ จะส่งข้อมูลการตรวจสอบเบื้องต้นให้ ก.ล.ต. เพื่อสอบสวนข้อมูลในเชิงลึกต่อ และเมื่อมีหลักฐานเข้าองค์ประกอบความผิดจะกล่าวโทษร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI หรือกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจหรือ ปอศ.

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ คดีที่ ก.ล.ต.ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ DSI หรือ ปอศ. มักจะเงียบหาย คดีสาบสูญ ถูกดอง ถูกเป่าทิ้ง โดยอ้างหลักฐานไม่เพียงพอ จึงสั่งไม่ฟ้อง

และสาธารณชนไม่เคยได้รับฟังคำชี้แจง ความคืบหน้าในการดำเนินคดีของ DSI และ ปอศ. ไม่เคยมีการชี้แจงถึงเหตุผลการสั่งไม่ฟ้อง โดยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดี DSI เคยเซ็นคำสั่งไม่ฟ้องแก๊งปั่นหุ้น 15 คดี ภายในวันเดียว

การใช้ข้อมูลภายในแสวงหาผลประโยชน์จากการซื้อขายหุ้น หรืออินไซเดอร์เทรดดิ้ง การสร้างภาพลวงตาปั่นราคาหุ้น การใช้ข้อมูลเท็จหลอกลวงนักลงทุน การแต่งบัญชีงบการเงิน และการยักยอกทรัพย์ ไซฟ่อน ผ่องถ่ายเงินออกจากบริษัทจดทะเบียน เป็นความผิดร้ายแรงและสร้างความเสียหายให้นักลงทุนนับแสนนับล้านคนในตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา

แต่แก๊งมิจฉาชีพ อาชญากรในตลาดหุ้นมักลอยนวล เพราะคดีถูกตัดตอน ไม่เข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาล ทำให้ ก.ล.ต.ต้องปรับแผนการดำเนินคดีความผิดร้ายแรงในตลาดหุ้น

จากการดำเนินคดีโดยกล่าวโทษทางอาญา เพื่อกำราบปราบปรามแก๊งที่มิจฉาชีพที่เข้ามาปล้นนักลงทุนในตลาดหุ้น เปลี่ยนมาใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งแทน โดยการสั่งปรับผู้กระทำผิด ซึ่งถือเป็นบทลงโทษที่เบา และไม่ได้ทำให้แก๊งมิจฉาชีพเกิดความเกรงกลัว

เพราะการใช้อินไซเดอร์เอาเปรียบนักลงทุนทั่วไป ถ้าถูกจับได้โทษเพียงถูกปรับ เมื่อจ่ายค่าปรับ คดีก็จบ หรือการปั่นหุ้น ถ้าถูกตรวจพบจะถูกลงโทษเพียงทางแพ่ง และสามารถบิดพลิ้วไม่จ่ายค่าปรับได้อีก โดยให้ ก.ล.ต.ส่งเรื่องต่อถึงอัยการฟ้องบังคับชำระค่าปรับ

มีหลายคดีที่แก๊งปั่นหุ้นไม่ยอมจ่ายค่าปรับ และคดีอยู่ระหว่างพิจารณาในชั้นศาล รวมทั้งคดีปั่นหุ้น บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA ที่ ก.ล.ต.ฟ้องเรียกชำระค่าปรับสูงสุด 2.3 พันล้านบาท

แม้ ก.ล.ต.จะได้ค่าปรับคดีอินไซเดอร์ คดีปั่นหุ้นหรือความผิดอื่นจำนวนนับพันล้านบาท แต่เทียบไม่ได้กับความเสียหายที่ประชาชนผู้ลงทุนได้รับจากแก๊งมิจฉาชีพที่ฝังตัวในตลาดหุ้น ภายใต้คราบบุคคลกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ ทั้งผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ผู้บริหารบริษัทโบรกเกอร์ นักลงทุนรายใหญ่ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ หรือแม้แต่คนที่สวมคราบความเป็นสื่อ

การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข็มข้น รวดเร็ว ลงโทษหนักอย่างเด็ดขาด โดยไม่เลือกปฏิบัติ จะเป็นแนวทางในการกวาดล้างแก๊งมิจฉาชีพและอาชญากรในตลาดหุ้นให้สิ้นซาก

แต่ ก.ล.ต.ไม่อาจบังคับใช้กฎหมายได้อย่างเต็มที่ เพราะการกล่าวโทษทางอาญามักถูกตัดตอนในชั้นพนักงานสอบสวนหรือชั้นอัยการ ทำให้ไม่มีทางเลือก ต้องนำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้แทน เพราะถ้าผู้กระทำผิดไม่ยอมจ่ายค่าปรับ สามารถยื่นเรื่องให้อัยการฟ้องบังคับคดีได้ ซึ่งหากอัยการไม่ฟ้อง ก.ล.ต.สามารถฟ้องศาลได้โดยตรง

การใช้มาตรการลงโทษทางแพ่ง โดยการสั่งปรับ แม้จะไม่ทำให้แก๊งมิจฉาชีพในตลาดหุ้นเกรงกลัว แต่อย่างน้อย ก.ล.ต.ก็ยังได้ค่าปรับนำส่งเข้าแผ่นดินบ้าง

ได้ประจานแก๊งมิจฉาชีพที่ปล้นหรือเอาเปรียบนักลงทุนให้สังคมรับรู้ แม้คนโกงมักจะไร้ยางอายก็ตาม

การแก้กฎหมาย เพิ่มอำนาจ ก.ล.ต.ในการฟ้องผู้กระทำความผิดในตลาดหุ้นต่อศาลได้โดยตรง จะทำให้เป้าหมายในการปราบปรามแก๊งมิจฉาชีพ กลุ่มอาชญากร และพฤติกรรมการกระทำผิดเอารัดเอาเปรียบนักลงทุนในตลาดหุ้นมีประสิทธิภาพขึ้น

เพราะเมื่อ ก.ล.ต.มีอำนาจฟ้องศาลได้โดยตรง คดีความผิดร้ายแรงในตลาดหุ้นจะต้องดำเนินคดีอาญาอย่างเด็ดขาดทุกคดี เพื่อนำอาชญากรที่ปล้นนักลงทุนเข้าคุกตะรางให้เข็ดหลาบ

แก๊งปั่นหุ้นที่เคยวิ่งเต้นล้มคดีจะสิ้นหนทางยัดเงินเพื่อให้ตัวเองไม่ต้องรับโทษ คดีความผิดร้ายแรงในตลาดหุ้นจะลดฮวบอย่างมีนัยสำคัญ

ประชาชนผู้ลงทุนในตลาดหุ้นจะมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยซื้อขายหุ้นบนความเท่าเทียม ไม่ถูกแก๊งมิจฉาชีพและอาชญากรหุ้น เอาเปรียบหรือโกงเหมือนตลอด 50 ปีที่ผ่านมา

การเพิ่มอำนาจ ก.ล.ต. สามารถสั่งฟ้องคดีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ได้ จะเป็นจุดเริ่มต้นกวาดล้างล้างแก๊งมิจฉาชีพ อาชญากรในตลาดหุ้น และกลุ่มคนที่เอาเปรียบนักลงทุนอย่างจริงจังและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

ตลาดหุ้นจะน่าลงทุนขึ้นอีกเยอะถ้าประชาชนมีความมั่นใจว่า เข้ามาซื้อขายหุ้นแล้วไม่ถูกเอาเปรียบหรือถูกโกง








กำลังโหลดความคิดเห็น