xs
xsm
sm
md
lg

อนันดาฯ เฮลั่น กฤษฎีกาชี้ไม่ต้องทุบ “แอชตัน อโศก” แค่ขอใบอนุญาตก่อสร้างใหม่ก็จบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กทม.เผย "แอชตัน อโศก" ไม่ต้องทุบทิ้ง แค่ขอใบอนุญาตก่อสร้างใหม่ก็จบ ยันมีผลย้อนหลัง อนันดา-ลูกบ้านแอชตัน อโศกเฮลั่น หลังกฤษฎีกาตีความ ชี้ทางออกคดีแอชตันอโศก หลังศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คดีโครงการแอชตัน อโศก ว่า หลังจากที่ กทม.ได้ออกหนังสือ ที่ กท.0907/1333 ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 ถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อขอหารือแนวทางการปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดให้เพิกถอนใบรับแจ้งการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมแอชตัน อโศก ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท อนันดา ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) นั้น ล่าสุดคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบกลับมาแล้ว
 
ทั้งนี้ ใจความสำคัญที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบกลับมามีข้อสรุปและสาระสำคัญสองส่วนประกอบด้วย 1.เรื่องการเพิกถอนใบรับแจ้งการก่อสร้าง กทม.จะต้องออกใบใหม่หรือไม่ คณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นว่า เมื่อศาลมีคำสั่งเพิกถอนถือว่าคำสั่งออกใบอนุญาตเดิมสิ้นสุดลง ทำให้การโครงการแอชตันฯ ก่อสร้างโดยไม่มีใบอนุญาต กทม. ฐานะผู้มีหน้าที่ทำให้ชอบด้วยกฎหมาย ให้เอกชนยื่นคำขอใหม่อีกครั้งโดยให้มีผลย้อนหลังได้ โดยไม่ต้องรื้อหรือทุบอาคารดังกล่าว

2.การใช้อำนาจในการออกคำสั่ง ตามมาตรา 40 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ปี 2522 ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร ผู้ควบคุมงาน ผู้ดําเนินการ ระงับการกระทําดังกล่าว หรือห้ามมิให้บุคคลใดใช้หรือเข้าไปในส่วนใดๆ ของอาคารแล้วแต่ละกรณี เห็นว่า กทม.ไม่จำเป็นต้องออกคำสั่งทำพร้อมกันในคราวเดียวกัน ขึ้นอยู่กับดุลพินิจตามความเหมาะสม และการออกคำสั่งเพื่อให้ดำเนินการแก้ไขอาคารให้ถูกต้องกับเจ้าของอาคาร ได้แก่ เจ้าของห้องในอาคารชุดทุกห้อง และนิติบุคคลอาคารชุดเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขอาคาร


นอกจากนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกายังให้ความเห็นกรณีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อนุญาตให้โครงการแอชตันฯ ใช้พื้นที่ตั้งสำนักงาน ถือว่าผิดวัตถุประสงค์การเวนคืนที่ดิน ภายหลังได้มีการรื้อถอนและใช้เป็นลานจอดรถของผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าและประชาชนทั่วไป โดยเสียค่าบริการตามที่ รฟม. กำหนด รวมทั้งสามารถใช้ทางเข้าออกกว้าง 13 เมตร ถือว่า ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไปไม่กระทบวัตถุประสงค์การเวนคืนที่ดิน ส่วนกรณี รฟม.รับค่าทดแทนจำนวน 97,671,707.45 บาท โดยเอกชนก่อสร้างอาคารจอดรถให้นั้น พบว่า รฟม.ไม่ได้เสนอ ครม.เห็นชอบเนื่องจากวงเงินเกิน 90 ล้านบาท อาจขอให้ ครม.เห็นชอบภายหลังได้

ทั้งนี้ หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนต่อไป คณะทำงานเตรียมนำแนวทางความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปดำเนินการต่อ สำหรับคณะทำงานซึ่งมี นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานครเป็นประธาน จะนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานควบคุมอาคาร สำนักการโยธา สำนักงานเขตวัฒนา และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อกำหนดรายละเอียดการปฏิบัติตามคำสั่งศาลโดยยึดแนวทางที่ได้มีการหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น