xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยพักฐานปิด - 0.50 จุด โบรกฯ แนะจับตาปัจจัยใหม่หนุน-ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดร่วง -0.50 จุด นักวิเคราะห์เผย หุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ หลังจากปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก ทำให้อัพไซด์เริ่มจำกัด และเข้าสู่ช่วงของการพักตัว แม้ว่าจะมีปัจจัยหนุนจากตัวเลขส่งออกเดือน ก.ค.ที่ออกมาสูงกว่าที่คาด แต่เป็นบวกเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกเท่านั้น ทำให้ไม่ได้หนุนดัชนีได้อย่างมีนัยสำคัญ ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ แนวต้านที่ 1,370 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,355 จุด แนะจับตาปัจจัยใหม่ที่จะเข้าหนุนตลาด และตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 27 ส.ค. 2567 ปรับตัวลดลง -0.50 จุด หรือ -0.04% โดยปิดตลาดที่ 1,364.31 จุด มูลค่าซื้อขาย 43,499.35 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ โดยปรับตัวเคลื่อนไหวสลับทั้งในแดนบวกและลบโดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นจุดสูงสุดที่ 1,368.55 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,360.74 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 247 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 180 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 237 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +1,081.29 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +167.96ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,029.60 ล้านบาท และ นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -219.65 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,721.77 ล้านบาท ปิดที่ 143.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
2.EA มูลค่าการซื้อขาย 1,688.02 ล้านบาท ปิดที่ 7.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,504.74 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
4.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,443.40 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
5.CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,258.96 ล้านบาท ปิดที่ 25.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.JMAR ปิดที่ 16.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.90 บาท หรือ 13.19%
2. CENTEL ปิดที่ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 3.65%
3.JMT ปิดที่ 16.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท หรือ 7.89%
4.GPSC ปิดที่ 42.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.42%
5.TOP ปิดที่ 53.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาท หรือ 1.90%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 242.00บาท ลดลง3.00บาท หรือ 1.22%
2.SAPPE ปิดที่ 70.00บาท ลดลง1.50บาท หรือ 2.10%
3.SCB ปิดที่ 107.00บาท ลดลง1.00บาท หรือ 0.93%
4.BBL ปิดที่ 142.00บาท ลดลง1.00บาท หรือ 0.70%
5.KBANK ปิดที่ 143.50บาท ลดลง1.00บาท หรือ 0.69%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,874.87 จุด ลดลง -0.72 จุด หรือ -0.04% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 860.47 จุด ลดลง -0.75 จุด หรือ -0.09% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 326.54 จุด ลดลง -1.92 จุด หรือ -0.58%

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ หลังจากปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก ทำให้อัพไซด์เริ่มจำกัด และเข้าสู่ช่วงของการพักตัว แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากตัวเลขส่งออกเดือนก.ค.ที่ออกมาสูงกว่าที่คาด แต่เป็นบวกเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกเท่านั้น ทำให้ไม่ได้หนุนดัชนีได้อย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกันยังคงรอปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามา โดยเฉพาะปัจจัยในประเทศที่ยังคงต้องติดตามการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ที่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงต้นเดือน ก.ย. รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ในต่างประเทศ หลังรับรู้ข่าวปัจจัยสำคัญไปมากแล้ว ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

"แนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยที่ยังมีปัจจัยที่รอติดตามในช่วงคืนวันศุกร์ที่จะถึงนี้ที่จะมีการรายตัวเลขเงินเฟ้อ (PCE) ของสหรัฐ ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางของตลาดหุ้น และเกี่ยวโยงกับการคาดการณ์แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยให้แนวต้าน 1,370 จุด แนวรับ 1,355 จุด" นายเทิดศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น