บล.ดีบีเอส ยกระดับการให้บริการ ปรับปรุงระบบซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศให้มีความทันสมัย สามารถดูข้อมูลตลาดหุ้นอเมริกาแบบ Real-Time โดยไม่มีเงื่อนไข ได้แล้ววันนี้!
นายวิชญ์นนท์ วงษ์ไชยคณากร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่าย Digital Business บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการปรับปรุงการใช้งานหลักทรัพย์ต่างประเทศให้มีความทันสมัย โดยรองรับการแสดงข้อมูลแบบ Real-Time ในส่วนของตลาดหุ้นอเมริกา ซึ่งถือเป็นตลาดหุ้นที่มีความสำคัญได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่สามารถดูข้อมูลแบบ Real-Time ของตลาดหุ้นสิงคโปร์ และฮ่องกงได้อยู่แล้ว
โดยลูกค้าที่มีบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศกับทางบริษัท สามารถดูข้อมูล Real-Time ได้ทั้ง 2 ช่องทางของเรา ทั้งผ่านทางแอปพลิเคชันมือถือ "DBSV mTrading Thailand" และเว็บไซต์ “www.dbsvickers.com” ซึ่งรองรับการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศได้ถึง 7 ประเทศ คือ สิงคโปร์ ฮ่องกง อเมริกา แคนาดา อังกฤษ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย
นอกจากลูกค้าจะได้รับข้อมูลราคาแบบ Real-Time แล้ว ทางบริษัทยังมีฟังก์ชัน และเครื่องมือประกอบการตัดสินใจลงทุน ทั้งในด้านพื้นทาง และเทคนิคอย่างครบถ้วนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น
“TipRanks” ที่เป็นข้อมูลสรุปรวมความเห็นของนักวิเคราะห์ทั่วโลก (Analyst Consensus) ในหุ้นที่ท่านสนใจว่ามีนักวิเคราะห์ให้คำแนะนำซื้อ ถือ หรือขายจำนวนกี่ราย มากน้อยเพียงใด เพื่อให้ท่านทราบมุมมองแบบสรุปรวมของนักวิเคราะห์ทั่วโลกได้ทันที
“CLOVERS” ที่เป็นเครื่องมือที่แสดงภาพรวมของหุ้นในรูปแบบใหม่ที่เข้าใจง่าย โดยนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาจากระบบการวิเคราะห์พิเศษที่ถูกพัฒนาโดยนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญจากทางดีบีเอส โดยนำเสนอในรูปแบบใหม่ เข้าใจง่ายใน 7 มุมมอง ไม่ว่าจะเป็น Cash Flow Trajectory, Leverage, Operating Risk Profile, Valuation, ESG, Reflexivity และ Shareholder returns
กราฟทางเทคนิคของ “TradingView” ที่จะมาตอบโจทย์นักลงทุนสายเทคนิค ให้นักลงทุนสามารถใส่ Indicators ตีกราฟ Fibonacci ดูกราฟย้อนหลัง ดูข้อมูล Overbought Oversold ของหุ้นต่างประเทศที่ท่านสนใจได้อย่างเต็มที่ แบบไม่มีค่าใช้จ่าย
นายวิชญ์นนท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนค่าธรรมเนียมการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ทางบริษัทได้นำเสนอค่าคอมมิชชันการซื้อขายในอัตราพิเศษของทั้ง 7 ประเทศ นอกจากนั้น หากท่านมีอายุไม่เกิน 26 ปี จะได้รับค่าธรรมเนียมการซื้อขายแบบเหมาจ่าย (Flat Rate) ผ่านโครงการพิเศษที่ชื่อว่า “Young Investor” อีกด้วย