หุ้นไทยปิดตลาด +3.20 จุด นักวิเคราะห์เผยหุ้นไทยบวกต่อเนื่องติดต่อกัน 5 วันรวด หลังมีแรงเข้าซื้อในหุ้นกลุ่มค้าปลีกเก็งมาตรการแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงแรงซื้อกลุ่มพลังงานและขนส่ง อีกทั้งมองแนวโน้มเฟดลดดอกเบี้ยหนุน Fund Flow ไหลเข้า ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,350 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,330 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 22 ส.ค. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.20 จุด หรือ +0.24% โดยปิดตลาดที่ 1,341.03 จุด มูลค่าซื้อขาย 38,479.88 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีแกว่งไซด์เวย์สลับขึ้นลงทั้งแดนบวกและลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุด 1,343.35 จุด ในทิศทางตรงกันข้ามที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,334.79 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 231 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 191 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 235 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -849.47 ล้านบาท และ นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -97.71 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +349.94 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +597.24 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.EA มูลค่าการซื้อขาย 1,830.36 ล้านบาท ปิดที่ 5.95 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,773.62 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,624.48 ล้านบาท ปิดที่ 59.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,445.97 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,322.86 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.50บาท หรือ 5.22%
2.KKP ปิดที่ 45.00บาท เพิ่มขึ้น 2.25บาท หรือ 5.26%
3.SKYปิดที่ 21.50บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 7.50%
4.TOA ปิดที่ 18.50บาท เพิ่มขึ้น 0.90บาท หรือ 5.11%
5.SCGP ปิดที่ 24.10บาท เพิ่มขึ้น 0.80บาท หรือ 3.43%
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 247.00บาท ลดลง 2.00บาท หรือ 0.80%
2.SAPPEปิดที่ 74.00 บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 1.99%
3.HANA ปิดที่ 39.50บาท ลดลง 1.25บาท หรือ 3.07%
4.CBG(XD) ปิดที่ 67.25บาท ลดลง 1.25บาท หรือ 1.82%
5.ADVANC ปิดที่ 243.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.41%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,844.04 จุด เพิ่มขึ้น 3.71 จุด หรือ 0.20% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 846.76 จุด เพิ่มขึ้น 1.23 จุด หรือ 0.15% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 326.54 จุด ลดลง -0.22 จุด หรือ -0.07%
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นอีก 3 จุด โดยเป็นแรงซื้อจากกลุ่มค้าปลีกหนุนดัชนีกว่าครึ่ง เก็งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแจกเงิน รวมทั้งแรงซื้อกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ GULF รับผลบวกเงินบาทแข็งค่า และกลุ่มขนส่ง อาทิ BEM, AAV, BA โดยวันนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องจากจุดต่ำสุดรอบนี้ที่ 1,290 จุดเมื่อวันที่ 15 ส.ค.และวิ่งขึ้นมาต่อเนื่อง 5 วันรวด จนถึงวันนี้ดัชนีทะลุ 1,340 จุดเท่ากับปรับตัวขึ้นกว่า 50 จุด หลังจากการเมืองในประเทศมีความชัดเจน ทำให้เกิดความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมา ประกอบกับ ตลาดคาดว่าดอกเบี้ยสหรัฐจะปรับลง ทำให้มีโอกาสเม็ดเงินจากต่างชาติ (Fund Flow) จะไหลเข้ามา
"แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้ คาดแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ โดยให้แนวต้านที่ 1,350 จุด และแนวรับที่ 1,330 จุด แนะนำนักลงทุน เกาะติดถ้อยแถลงนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่แจ็คสัน โฮลว่าจะส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยอย่างไร หากเป็นไปตามที่คาด ก็อาจดันให้ตลาดหุ้นปรับขึ้นเล็กน้อย หรืออาจมี Sell on Fact ออกมาบ้าง แต่หากยังส่งสัญญาณไม่ชัดเจน ก็อาจมีแรงขาย Sell on Fact เช่นกัน แต่ภาพหุ้นไทยคงจะลงไปไม่ลึกแล้ว" นายชาญชัย กล่าวทิ้งท้าย