xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยปิด +9.71 จุด กนง.คงดอกเบี้ยตามคาด หวังรัฐบาล "อุ๊งอิ๊ง" เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยยังบวกต่อเนื่อง ปิดตลาด +9.71 จุด นักวิเคราห์เผยหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวร้อนแรงกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย โดยผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มติไม่เป็นเอกฉันท์ 6 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.50% ต่อปี เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อีกทั้งยังได้แรงหนุนหลักจากการเมืองในประเทศคลี่คลาย ทำให้นักลงทุนมีความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะถัดไป มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,330-1,332 จุด และแนวต้าน 1,345 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 21 ส.ค. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +9.71 จุด หรือ +0.73% โดยปิดตลาดที่ 1,337.83 จุด มูลค่าซื้อขาย 41,295.23 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นดีกว่าภูมิภาคโดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,339.61 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,327.12 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 344 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 166 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 150 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,139.15 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -409.99 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่านักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +756.41 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +792.73 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,339.66 ล้านบาท ปิดที่ 28.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
2.GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,817.93 ล้านบาท ปิดที่ 49.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,695.28 ล้านบาท ปิดที่ 59.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,456.92 ล้านบาท ปิดที่ 59.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
5.EA มูลค่าการซื้อขาย 1,392.09 ล้านบาท ปิดที่ 5.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.85 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONTS ปิดที่ 124.50บาท เพิ่มขึ้น8.00 บาท หรือ 6.87%
2.BH ปิดที่ 249.00บาท เพิ่มขึ้น4.00 บาท หรือ 1.63%
3.BBL ปิดที่ 137.00บาท เพิ่มขึ้น3.00 บาท หรือ 2.24%
4.SAWAD ปิดที่ 36.75บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 5.76%
5.EGCO ปิดที่ 104.50บาท เพิ่มขึ้น2.00 บาท หรือ 1.95%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 103.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.90%
2.ITC ปิดที่ 21.00บาท ลดลง0.80 บาท หรือ 3.67%
3.TIPH ปิดที่ 25.50บาท ลดลง0.50 บาท หรือ 1.92%
4.HANA ปิดที่ 40.75บาท ลดลง0.50 บาท หรือ 1.21%
5.TU (XD) ปิดที่ 15.00บาท ลดลง0.40 บาท หรือ 2.60%
 
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,840.33 จุด เพิ่มขึ้น 13.62 จุด หรือ 0.75% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 845.53 จุด เพิ่มขึ้น 5.54 จุด หรือ 0.66% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 326.76 จุด เพิ่มขึ้น 2.74 จุด หรือ 0.85%

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย โดยได้แรงหนุนจากการเมืองในประเทศคลี่คลายทำให้นักลงทุนมีความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะถัดไปหลังได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขณะที่ผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มติไม่เป็นเอกฉันท์ 6 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.50% ต่อปี เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์

"แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ ยังปรับตัวขึ้นได้ต่อหลังปิดเหนือระดับ 1,332 จุดได้ หนุนมุมมองเชิงบวกมากขึ้น เก็ง SET ระยะกลางมีโอกาสปรับขึ้นแตะ 1,360-1,380 จุด แนะติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คืนนี้ และถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดในการประชุมที่แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิงศุกร์นี้ (23 ส.ค.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ส่วนแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ ประเมินแนวรับที่ 1,330-1,332 จุด และแนวต้าน 1,345 จุด" นายวีระวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น