นับตั้งแต่ประกาศชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ "อุ๊งอิ๊ง" ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ตลาดหุ้นก็กลับสู่ความมีชีวิตชีวา ดัชนีพุ่งทะยานขึ้นทันที ผ่านทะลุ 1,300 จุด และมีแนวโน้มว่าอาจวิ่งต่อไปถึง 1,350 จุด
รวม 2 วันนับจากวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ดัชนีขยับขึ้นกว่า 33 จุด โดยปิดเมื่อวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคมที่ระดับ 1,323.38 จุด
การที่ น.ส.แพทองธาร ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนทั่วไปมองว่า เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ตลาดหุ้นเกิดความคึกคัก เพราะนักลงทุนคาดหวังในผู้นำประเทศคนใหม่ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยปัจจัยหลักที่ทำให้หุ้นฟื้นขึ้นมาเกิดจากสถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้นแรงมากกว่า
และสาเหตุที่ตลาดหุ้นทั่วโลกเขียวขจี เป็นเพราะนักลงทุนคลายความวิตกกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ และมีความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้
ถ้านักลงทุนยังวิตกกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย และตลาดหุนทั่วโลกยังแดงฉาน การรับตำแหน่งของ น.ส.แพทองธาร คงไม่สามารถปลุกให้หุ้นกระเตื้องขึ้นมาได้
ต้องถือว่า อุ๊งอิ๊งเข้ามาในจังหวะเวลาที่ดี โดยปัจจัยภายนอกเป็นใจ ขณะที่การเมืองมีความชัดเจนขึ้น ไม่อึมครึม นักลงทุนจึงไม่ต้องพะวงผลกระทบการเมืองในระยะสั้น และกลับเข้ามาลุยซื้อหุ้นอีกครั้ง
โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งเมื่อวันจันทร์ซื้อหุ้นสุทธิประมาณ 1,600 ล้านบาท เมื่อหักรายการบิ๊กล็อตหรือการซื้อขายนักลงทุนรายใหญ่ หุ้นบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ต่างชาติขายหุ้นให้นักลงทุนในประเทศมูลค่ารวมประมาณ 12,177 ล้านบาท
หุ้นวิ่งแรงมา 2 วันแล้ว มีคำถามว่าหุ้นจะเข้าสู่ขาขึ้นรอบใหญ่หรือไม่ ดัชนีจะตีฝ่าแนวต้าน 1,350 จุดไหม
ปฏิกิริยาตอบรับของนักลงทุนกับนายกฯ อุ๊งอิ๊งหมดหรือยัง
สถานการณ์การเมืองภายในประเทศกดดันตลาดหุ้นมาพักใหญ่ แต่เมื่อมีนายกฯ คนใหม่ในเวลาที่ฉับไว การเมืองจะเริ่มนิ่ง ปัจจัยชี้นำตลาดหุ้นในระยะสั้นคงกลับไปสู่ปัจจัยภายนอก หรือความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศ สถานการณ์สงครามตะวันออกลาง ตัวเลขเศรษฐกิจและการลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
หุ้นซึมซับนายกฯ อุ๊งอิ๊งไปพอแล้ว ถ้าจะเดินหน้าต่อต้องมีแรงกระตุ้นจากปัจจัยภายนอก การไหลกลับของนักลงทุนต่างชาติ โดยเข้ามาลุยซื้อหุ้นต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนรวมวายุภักดิ์ วงเงิน 1-1.5 แสนล้านบาท
ถ้าไม่มีข่าวดีเข้ามาหนุน หุ้นอาจพักฐาน กลับไปสู่การขึ้นลงในกรอบแคบๆ โดยไม่ทะยานขึ้นแตะ 1,350 จุดได้ในรอบนี้
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่มองในทิศทางเดียวกันว่า การปรับตัวขึ้นรอบใหญ่ระดับ 100 จุดยังมาไม่ถึง แต่อาจตัวขึ้นรอบเล็กๆ ในระยะสั้น ซึ่งนักลงทุนรายย่อยควรชิงจังหวะทยอยขายทำกำไร โดยเฉพาะหากหุ้นดีดตัวขึ้นแรง และเตรียมเงินสดเพื่อรอช้อนหุ้นหากปรับฐานลง
รัฐบาลอุ๊งอิ๊งจะเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนได้หรือไม่ จะกระตุ้นให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นกลับสู่ความคึกคักได้ ต้องสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจซึ่งซบเซาอย่างหนัก และเวลาการสร้างผลงานของผู้นำประเทศคนใหม่ก็มีจำกัด
เพราะรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ผลาญเวลาประเทศไปแล้วประมาณ 1 ปี แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ จึงไม่มีเวลาเหลือให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยอีกมากนัก
หุ้นที่เด้งขึ้นมาแรงกว่า 33 จุดในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา อย่าเพิ่งเหมาว่าเป็นเพราะนักลงทุนคาดหวังในตัวนายกฯ อุ๊งอิ๊ง และกลับเข้ามาลุยซื้อหุ้น
เพียงแต่อุ๊งอิ๊งเข้ามาในช่วงเวลาที่เหมาะ โดยสถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกสดใส ตลาดหุ้นไทยจึงขึ้นตามก็เท่านั้น
