เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ เผยรายได้ของไตรมาส 2/67 ที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของ Ethnic Food ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจค้าปลีกสินค้า และธุรกิจสินค้าเอเชียแบบ Omni-Channel ในสหราชอาณาจักร
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ หรือ NRF เผยว่าปีนี้บริษัทได้เผชิญกับความท้าทายหลายปัจจัย อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการไตรมาส 2/67 ยังคงออกมาดี สามารถสร้างรายได้จากการขาย 955.6 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจหลักของบริษัท อาหารชาติพันธุ์และอาหาร Specialty กลุ่มธุรกิจ E-Commerce อาหารสัตว์เลี้ยง ร้านค้าปลีกและค้าส่งอาหารเอเชียต่อผู้บริโภคโดยตรงผ่านหลายช่องทาง (Omni-Channel Asian Grocery) และผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช ตามลำดับ
ในไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 25.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 176% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/66 ซึ่งโดยปกติแล้วกำไรสุทธิของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 49 ล้านบาท ทั้งนี้การลดลงของกำไรในไตรมาสนี้เกิดจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ IPO ของ Bamboo Mart Limited ในตลาด NASDAQ ช่วงปลายปี และสาเหตุจากการขนส่งตู้สินค้าที่ส่งผลให้การรับรู้รายได้ล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมองว่าผลประกอบการโดยรวมยังน่าพอใจ และเชื่อมั่นว่าการรับรู้รายได้ที่ล่าช้าจะถูกบันทึกในไตรมาสหน้า
แม้ว่าผลประกอบการในไตรมาสนี้จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก แต่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในระยะยาวของบริษัทจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากการบริหารงานด้วยกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ด้วยการเพิ่มรถบรรทุกขนส่งให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงลอนดอน เพื่อรองรับการขยายตัวของร้านค้าของบริษัท และช่วยดึงดูดลูกค้ามากขึ้น
เข้าซื้อกิจการแบรนด์ Way-on ซอสปรุงรสชื่อดังจากจีน โดยคาดว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ได้ในช่วงปลายปีนี้
เข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับโลก “ThaiFex Anuga Asia 2024” โดยนำผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่างๆ ไปร่วมจัดแสดง พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างซอสหอมเจียวพริกกรอบ ภายใต้แบรนด์ “พ่อขวัญ” ครั้งแรก และเปิดตัวมาสคอต “น้องเหวย” ที่เป็นตัวแทนของ NRF ด้วย
พร้อมทั้งได้รับรางวัลระดับโลกจากเวที Global Brand Awards 2024 สาขา Most Innovative Sustainable Food Producer ที่ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ NRF ในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอาหารที่ยั่งยืน
ขณะเดียวกัน ยังมีกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินงานเพื่อช่วยให้บริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เช่น
การเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจอาหารหลักของบริษัท เน้นการเติบโตจากภายใน และการปรับปรุงอัตรากำไรขั้นต้น เช่น เพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานซอสใหม่ของบริษัท เพื่อให้ผลิตสินค้าได้ในปริมาณมากขึ้น ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นด้วย
Secure Our Future บริษัทยังคงเดินหน้าทดลองโครงการนำร่องในภาคเหนือของประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนบริษัทสู่การเป็นบริษัทอาหารที่มุ่งสู่ Net Zero Unlock Value เพิ่มเงินสด สินทรัพย์สุทธิ และส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งจะมีการขยายธุรกิจบางส่วนด้วยกำไร ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา รวมถึง การ IPO ของ Bamboo Mart ธุรกิจ Direct-to-consumer ที่จะสร้างเงินสดจำนวนมากให้บริษัทฯฝ เสริมศักยภาพและยกระดับการดำเนินงานในส่วนปลายน้ำ ด้วยการสรรหาบุคลากรแนวหน้า เพื่อปรับปรุงกระบวนการให้เหมาะสม และเพิ่มมูลค่าให้กลุ่มธุรกิจของบริษัท
สำหรับทิศทางต่อจากนี้ มั่นใจได้ว่าบริษัทจะมีกลยุทธ์การบริหารงาน และขยายธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงสังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าพาบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีผลประกอบการที่ดีในอนาคต