ภายหลังที่ "อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทยถูกโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 จับให้ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยเริ่มคึกคัก และในกลุ่มของหุ้นอสังหาฯ ที่แม้ในภาพรวมปี 2567 จะไม่สดใสมากนัก แต่ผลตอบแทนราคาย้อนหลัง 5 วัน มีหลายหลักทรัพย์บวก โดยเฉพาะหุ้น SC บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่บวกมากถึงกว่า 5% ฉะนั้นจึงไปส่อง 10 หุ้นอสังหาฯ วัดผลงาน ราคา YTD ว่าเป็นอย่างไร
1.LH บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคป 62,138.51 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -36.20% ย้อนหลัง 5 วันคือ -5.45% ราคา ณ 16 ส.ค.67 คือ 5.20 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 8.50/4.86 บาท) ค่า P/E 8.97 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทนYTD ปี 67 คือ 9.62% ปี 66 คือ 7.36% ปี 65 คือ 5.05%
LH แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัท และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 1,017.02 ล้านบาท ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อน บริษัท และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 1,449.72 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลง 432.70 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 29.85%
2.SPALI บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคป 32,030.09 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -11.83% ย้อนหลัง 5 วันคือ +6.49% ราคา ณ 16 ส.ค.67 คือ 16.40 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 21.80/14.80 บาท) ค่า P/E 5.91 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 8.84% ปี 66 คือ 7.79 % ปี 65 คือ 5.13%
SPALI รายงานผลกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2/67 จำนวน 1,598.89 ล้านบาท ลดลง 5.98% หรือลดลง 102 ล้านบาท เกิดจากรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลงเหลือระดับ 7,858.24 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 230.95 ล้านบาท หรือลดลง 3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,007.89 ล้านบาท
3.AP บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคป 24,695.31 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -30.53% ย้อนหลัง 5 วันคือ +1.29% ราคา ณ 16 ส.ค.67 คือ 7.85 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 12.80/7.50 บาท) ค่า P/E 4.65 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 8.92% ปี 66 คือ 5.75% ปี 65 คือ 4.31%
AP เผยครึ่งแรกปี 67 ทำรายได้รวม 21,130 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,277 ล้านบาท ผลสำเร็จจากพอร์ตคอนโดฯ โอนกรรมสิทธิ์ที่ได้รับการตอบรับอย่างดี พร้อมเดินหน้ากระจายโครงการเจาะทุกพิกัดทำเลที่ดีที่สุด โดยเตรียมเปิดโครงการใหม่ 25 โครงการ มูลค่า 27,440 ล้านบาท
4.SIRI บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคป 27,604.08 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -9.60% ย้อนหลัง 5 วันคือ -1.23% ราคา ณ 16 ส.ค.67 คือ 1.60 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 2.06/1.49 บาท) ค่า P/E 4.97 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 12.01% ปี 66 คือ 7.87% ปี 65 คือ 3.40 %
ผลประกอบการรอบ 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีผลงานยอดขายที่โดดเด่นสามารถสร้างยอดขายรวมได้ถึง 25,000 ล้านบาท คิดเป็น 48% ของเป้าทั้งปีที่ 52,000 ล้านบาท และทำรายได้ครึ่งปีแรกที่ 20,000 ล้านบาท คิดเป็น 47% ของเป้าทั้งปีที่ 43,000บาท โตขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,700 ล้านบาท
5.PSH บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคป 18,821.14 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -28.93% ย้อนหลัง 5 วันคือ +1.18% ราคา ณ 16 ส.ค.67 คือ 8.60 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 13.60/8.05 บาท) ค่า P/E 21.05 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 11.16% ปี 66 คือ 7.93% ปี 65 คือ 7.27%
PSH เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกปี 2567 ว่า บริษัททำรายได้ 9,864 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีที่ 33% และยังคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน (Net gearing ratio) ต่ำที่ 0.39 เท่า
6.QH บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคป 17,678.73 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -26.34% ย้อนหลัง 5 วันคือ -2.37% ราคา ณ 16 ส.ค.67 คือ 1.65 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 2.36/1.59 บาท) ค่า P/E 7.52 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 9.09% ปี 66 คือ 6.25% ปี 65 คือ 4.35%
บริษัทมีกำไรลดลงเนื่องจากรายได้รวมสำหรับไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 2,442 ล้านบาท ลดง 2% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,499 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 2,006 ล้านบาท ลดลง 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,120 ล้านบาท
7.SC บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคป 10,693.03 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -23.78% ย้อนหลัง 5 วันคือ +5.04% ราคา ณ 16 ส.ค.67 คือ 2.50 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 4.68/2.30 บาท) ค่าP/E 5.17 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 9.59% ปี 66 คือ 7.58% ปี 65 คือ 4.73%
ราคาหุ้น SC ปรับตัวขึ้นมาตอบรับการโหวตเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย “นายกรัฐมนตรี คนที่ 31” ของประเทศไทย หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมีมติเห็นชอบให้เสนอชื่อ ซึ่งอยู่ในบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาลงมติเลือกนายกฯ
8.ORI บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคป 10,356.40 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -50.06% ย้อนหลัง 5 วันคือ -1.86% ราคา ณ 16 ส.ค.67 คือ 4.22 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 10.90/3.98 บาท) ค่า P/E 5.28 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 10.90% ปี 66 คือ 8.52% ปี 65 คือ 4.46%
ผู้บริหารระบุในไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) จากทั้งโครงการบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม 47,135 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกของปี 2567 มียอดขายจากโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมรวมกว่า 18,331 ล้านบาท
9.LPN บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคป 4,275.34 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -26.13% ย้อนหลัง 5 วันคือ -0.68% ราคา ณ 16 ส.ค.67 คือ 2.94 บาท(ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์คือ 4.26/2.86 บาท) ค่า P/E 14.23 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 4.42% ปี 66 คือ 5.53% ปี 65 คือ 3.25%
LPN ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เพื่อวางแนวทางสร้างองค์กรสู่ยุคใหม่ โดยบอร์ดมีมติแต่งตั้ง น.ส.ดารณี ฉัตรพิริยะพันธ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer: CEO) ซึ่งมีผลวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป ตามที่ได้มีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
10.SENA บริษัทเสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคป 3,259.54 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -4.24% ย้อนหลัง 5 วัน ไม่เปลี่ยนแปลง ราคา ณ 16 ส.ค.67 คือ 2.26 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 3.02/2.20 บาท) ค่า P/E 8.60 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 10.36% ปี 66 คือ 8.70% ปี 65 คือ 5.35%
SENA ยื่นร่างแบบแสดงรายการต่อ ก.ล.ต. โดยออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยราว 5.60-5.80% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 27 30 กันยายน และ 1 ตุลาคม 2567
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าในภาพรวมของปี 67 หุ้นอสังหาฯ ไม่สดใสมากนัก แต่หลังจากได้ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทอสังหาฯ ชื่อดังเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จึงน่าจะเป็นปัจจัยบวกให้หุ้นกลุ่มนี้มีแรงซื้อเข้ามาและปรับราคาขึ้นได้ในอนาคต