วินเนอร์ยี่ เมดิคอล มือขึ้นคว้างานประมูลชุดอุปกรณ์สำหรับทางการแพทย์มูลค่า 15 ล้านบาท ประเมินผลงานครึ่งปีหลัง 67 แนวโน้มธุรกิจสดใส ฟากซีอีโอ “นันทิยะ ดารกานนท์” ระบุเดินลุยขยายฐานลูกค้าทั้งกลุ่มภาครัฐและเอกชนหนุนธุรกิจตรวจสุขภาพ หลังกระแสตอบรับดีเกินคาด จากโครงการ Mobile Blood Collection และการตรวจคัดกรอง “มะเร็งปากมดลูก” ในสตรีกลุ่มเสี่ยง สัญญาณดี ผลักดันรายได้เติบโตตามแผนปีนี้
นายนันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) (WINMED) ผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องและชุดอุปกรณ์ สำหรับการเก็บ การตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัย และการบำบัดรักษาทางการแพทย์ เปิดเผยว่า แนวโน้มภาพรวมการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2567 จะดีกว่าครึ่งปีแรก จากโครงการตรวจคัดกรอง “มะเร็งปากมดลูก” ในกลุ่มสตรีหลายพื้นที่ ล่าสุดยังรอลงนามอีกหลายจังหวัดในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ โครงการ Winmed cares ยังมาช่วยเสริมทัพ ซึ่งจะทำให้รายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ล่าสุด บริษัทชนะการประมูลเครื่องชั่ง และเขย่าเกล็ดเลือดพร้อมระบบ ให้ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย มูลค่า 15 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้สามารถคว้างานขายเครื่องผนึกสายถุงบรรจุโลหิต (แบบพกพา) มูลค่า 6.18 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการได้งานอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ WINMED Cares เป็นโครงการที่จัดทำโดย WINMED ภายใต้งบประมาณจาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้หญิงไทยเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้มากที่สุด เพื่อนำไปสู่การลดจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกในไทยให้กลายเป็นศูนย์
ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายต้องการให้ผู้หญิงไทยได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ จึงได้เป็นผู้สนับสนุนชุดตรวจแบบ HPV Self-collect test ฟรี ผ่านโครงการ WINMED Cares สำหรับผู้หญิงไทยทุกคนที่มีอายุ 30-59 ปี สามารถลงทะเบียนเพื่อรับชุดตรวจได้ด้วยตัวเอง นับว่าเป็นทางเลือกเพิ่มเติมในการตรวจด้วยตัวเองโดยไม่ต้องขึ้นขาหยั่ง ซึ่งมีพันธมิตรเข้าร่วมโครงการได้แก่ การบินไทย เครือ CP ไทยน้ำทิพย์ และบริษัทชั้นนำต่างๆ ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรอีกหลายราย และมีการจองเข้าร่วมโครงการยาวถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวที่จะมาสนับสนุนรายได้บริษัทให้เติบโตได้อีก 1 ช่องทาง
สำหรับโครงการตรวจคัดกรอง “มะเร็งปากมดลูก” ในกลุ่มสตรี ที่ได้ลงนามความร่วมมือไปแล้ว ทั้งหมด 7 จังหวัดได้แก่ นครราชสีมา กำแพงเพชร กาญจนบุรี ปราจีนบุรี นครศรีธรรมราช พัทลุง และจันทบุรี มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี และในช่วงไตรมาส 4 เตรียมรอลงนามอีกหลายจังหวัด
ขณะที่โครงการ Mobile Blood Collection หรือหน่วยรับบริจาคโลหิตด้วยเครื่องอัตโนมัติเคลื่อนที่ บริษัทได้เริ่มโครงการตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 โดยในปี 2566 เรามีหน่วยให้บริการรวม 6 หน่วย และในปี 2567 เปิดให้บริการเพิ่มมาอีก 5 หน่วย รวมเป็น 11 หน่วย โดย 5 หน่วยที่เปิดเพิ่มขึ้นได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลชลบุรี โรงพยาบาลชัยภูมิ โรงพยาบาลทรวงอก และโรงพยาบาลสงขลา ซึ่งกระจายไปในแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อสรรหาเกล็ดโลหิต และโลหิตให้เพียงพอ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า ในปี 2567 บริษัทจะดำเนินการตามแผนงานโดยมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนมั่นคง โดยจะนำเสนอกลยุทธ์นวัตกรรมด้านการแพทย์ รวมถึงธุรกิจใหม่เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีและปลอดภัยจากโรคร้าย ภายใต้แนวคิด “Making IMPACT with Meaningful Purposes” นอกจากนี้ ยังมี New Project ต่างๆ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนยอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผลักดันรายได้เติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน