หุ้นปิดเช้าลบ 7.65 จุด (-0.59%) มูลค่าซื้อขายราว 22,070 ล้านบาท นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงจากความกังวลสถานการณ์ทางการเมืองจากการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีที่อาจกระทบการดำเนินนโยบายและโครงการภาครัฐ โดยเฉพาะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างดิจิทัลวอลเล็ต หากนายกฯ ไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย จึงมีแรงขายหนักในกลุ่มค้าปลีก รวมถึงกลุ่มแบงก์ แนวโน้มช่วงบ่ายคาดยังปรับลงต่อ โดยให้แนวรับ 1,280-1,275 จุด แนวต้านที่ 1,292 จุด
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้บรรยากาศไม่ค่อยดี โดยลงไปลึกกว่า 10 จุด เพราะกังวลสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีที่ทำให้มีความเสี่ยงด้านโยบายและโครงการภาครัฐอาจเปลี่ยนไป โดยเฉพาะหากพรรคอื่นมานั่งนายกฯ แทนพรรคเพื่อไทย ยกเลิกโครงการ หรือลดขนาดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดังนั้น จึงเกิดแรงขายกลุ่มค้าปลีกที่ก่อนหน้านี้คาดหวังจะได้รับประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งตลาดมีสัญญาณระมัดระวังและปรับตัวลงแรงทำให้โมเมมตัมเสีย เพราะกังวลว่าการเปลี่ยนนโยบายจะทำให้การบริโภคและการใช้จ่ายลดลง รวมถึงดิจิทัลวอลเล็ตอาจหายไป จะเห็นหุ้นกลุ่มห้างและกลุ่มวัสดุก่อสร้างก็ปรับตัวลง
ส่วนกลุ่มแบงก์ที่ปรับลงเพราะมีความไม่แน่นอนโมเมมตัมการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ส่วนกลุ่มโรงพยาบาล มี Valuation แพง แต่ส่วนหุ้นที่ Valuation ไม่แพงวันนี้มีหลายตัวที่ยืนบวกได้
ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,285.04 จุด ลดลง 7.65 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.59% มูลค่าซื้อขายราว 22,070 ล้านบาท
แนวโน้มในช่วงบ่ายน่าจะปรับตัวลงต่อจากแรงขายของนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยที่ไม่มี Catalyst และยังมีความเสี่ยง โดยเฉพาะนักลงทุนมองกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากให้นายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก
พร้อมให้แนวรับ 1,280-1,275 จุด แนวต้านที่ 1,292 จุด