โรงงานเภสัชอุตสาหกรรมฯ ครึ่งปีแรกรายได้แตะ 355 ล้านบาท โต 44.8% ทำกำไร 10 ล้านบาท เติบโต 191% พร้อมล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยงและชงปันผลทันทีไม่ต่ำกว่า 0.0316 บาทต่อหุ้น ผลจากรายได้แกร่งตามเป้า 800 ล้านบาท อีกทั้งรับรู้รายได้จากเกรซ วอเทอร์ เมด มั่นใจครึ่งปีหลังสดใสต่อเนื่อง
นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JSP) เปิดเผยว่า ในงวดครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทได้แสดงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจออกมาอย่างน่าพอใจ โดยมีรายได้รวม 355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 245 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทมีกำไรสุทธิในครึ่งปีแรกที่ 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 191% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 11 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2/2567 บริษัทมีรายได้ 199 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 227% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในครั้งนี้ทำให้บริษัทสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมด พร้อมทั้งเตรียมจ่ายปันผลระหว่างการเป็นเงินสดไม่ต่ำกว่า 0.0316 บาทต่อหุ้น
ในปี 2567 JSP เริ่มมีสัญญาณของการดำเนินงานที่ดีมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งมาจาก 3 ปัจจัย โดยเริ่มจาก
1.บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ โดยได้มุ่งไปยังตลาดกลุ่มเป้าหมายผู้สูงวัยเป็นหลัก ได้เพิ่มงบการตลาดเป็น 50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนใช้ไปมาจากการแต่งตั้ง “แม่อี๊ด ดวงใจ หทัยกาญจน์” เป็นพรีเซนเตอร์ กลยุทธ์นี้ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าผู้สูงวัยเกินคาด ส่งผลให้ครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งในปีนี้ JSP ได้ปรับเป้าหมายยอดขายของปีนี้จาก 700 ล้านบาท เป็น 800 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะเติบโตได้ตามเป้า
2.การรับรู้รายได้ 60% จากบริษัท เกรซ วอเทอร์ เมด จำกัด (GWM) บริษัทลูกของ JSP ดำเนินธุรกิจโรงงานผลิตน้ำยาล้างไต (A-B Solution) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาสำหรับผู้ป่วยฟอกไต เครื่องฟอกไตเทียม เข็มต่อสายฟอกเลือด และอุปกรณ์การแพทย์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเลือด นอกจากนี้ GWM ยังถือหุ้นในบริษัท วารี เมดิคอล จำกัด ดำเนินธุรกิจการติดตั้งระบบน้ำ และจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องกรองน้ำและติดตั้งระบบน้ำบริสุทธิ์ให้ศูนย์ฟอกไตของ GWM และลูกค้าทั่วไป โดย JSP จะใช้กลยุทธ์การผลิตอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยโรคไตโดยเฉพาะ เพื่อไปวางจำหน่ายในศูนย์ฟอกไต ที่ปัจจุบัน GWM มีเครือข่ายปัจจุบันมากกว่า 100 ศูนย์ ซึ่งแนวโน้มธุรกิจของ GWM มีสัญญาณที่ดี รวมถึงบริษัทมีแผนที่จะนำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในเร็วๆ นี้
3.บริษัทก้าวข้ามช่วงที่ใช้เงินลงทุนและเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวกำไร โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ JSP ได้นำเงินระดมทุนไปปรับปรุงห้องแล็บ และเครื่องจักรให้ทันสมัย รวมถึงเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถเป็นผู้ให้บริการธุรกิจด้านสุขภาพครบวงจร ซึ่งปัจจุบันบริษัทไม่จำเป็นต้องลงทุนเป็นจำนวนมากอีกต่อไป ขณะเดียวกันการลงทุนที่ผ่านมาเริ่มเห็นผลการเติบโตและหนุนรายได้ให้บริษัทอย่างมั่นคง
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลัง JSP จะมีความคืบหน้าในด้านนวัตกรรมการจัดจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ผู้คนยุคใหม่มากขึ้น ด้วยการเพิ่มตู้กดยา Medis ตู้จำหน่ายยาอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง เพิ่มเป็น 200 ตู้ ภายในปีนี้จากปัจจุบันที่ได้ทำการติดตั้งไปแล้ว 130 ตู้เพื่อเก็บข้อมูลความต้องการผู้บริโภคว่ามีสินค้าใดอยู่ในความต้องการของกลุ่มลูกค้าช่วงวัยใด ซึ่งในส่วนของตู้กดยา Medis นี้จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยกระจายสินค้าของกลุ่ม JSP และพันธมิตร ให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างตรงจุด ทั้งกลุ่มคนที่อาศัยอยู่คอนโดมิเนียม หมู่บ้าน และโรงงาน เป็นต้น