xs
xsm
sm
md
lg

DTCENT กำไรพุ่ง 62.65% งานในมือพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





ดี.ที.ซี.เอ็นเตอร์ไพรส์ เปิดผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 67 มีกำไรสุทธิ 64.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.65% จากงวดเดียวกันปีก่อน ผลจากการรับรู้รายได้งานโครงการภาครัฐ-เอกชน และการให้บริการใช้ระบบติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking) โตแรง ขณะแผนครึ่งปีหลังเร่งเปิดศูนย์บริการ DTC SHOP ให้ครบ 20 แห่ง ภายในปีนี้  


นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดี.ที.ซี.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (DTCENT) ผู้นำในการให้บริการระบบ GPS Tracking อันดับ 1 ในประเทศไทย (อ้างอิงจากข้อมูลกรมการขนส่งทางบกในเดือนมกราคม 2567) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567) บริษัทมีกำไรสุทธิ 64.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.65% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 39.73 ล้านบาท และมีรายได้รวม 366.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.44% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 338.33 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 36.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.86% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 23.07 ล้านบาท และมีรายได้รวม 182.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.60% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 172.71 ล้านบาท

โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้จากการให้บริการใช้ระบบติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking) รวมทั้งรายได้จากงานโครงการของภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มขึ้น

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทเร่งเปิดศูนย์ DTC SHOP ให้ครบจำนวน 20 แห่งภายในปีนี้ จากปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 13 แห่ง ประกอบด้วย สาขาถนนบางนา-ตราด กม.6 สาขาเชียงใหม่ สาขาอุดรธานี สาขาขอนแก่น สาขาอยุธยา สาขานครสวรรค์ สาขาพระราม 2 สาขาแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี สาขามาบข่า จังหวัดระยอง สาขาท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขานครราชสีมา สาขาภูเก็ต และสาขาอุบลราชธานี

ขณะเดียวกัน ได้พัฒนางานด้านการอบรมความปลอดภัยอย่างครบวงจร เช่น การใช้รถใช้ถนน การขับขี่อย่างปลอดภัย และ Simulator เพื่อให้บริการกับกลุ่มลูกค้าเดิม ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการวางระบบ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้ และสามารถรับรู้รายได้ทันที เป็นการต่อยอดจากธุรกิจ GPS Tracking-IoT Solutions

สำหรับศูนย์บริหารจัดการและบริการข้อมูลยานพาหนะ Vehicle Monitoring and Support Center ได้เปิดให้บริการ โดยเริ่มงานมอนิเตอร์ให้ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว

ในส่วนของงานด้าน IoT Solutions และระบบ AI บริษัทวางแผนทำโครงการ Smart City Solution, Smart AI Solution ให้ลูกค้าภาครัฐและเอกชนที่มีความสนใจ ปัจจุบันได้รับงานพัฒนาโครงการเทศบาลนครรังสิตสู่เมืองอัจฉริยะ โดยใช้แอปพลิเคชันสำหรับเมืองอัจฉริยะ (Rangsit City App) รวมถึงยังให้บริการกับโครงการหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอีกหลายโครงการ

ด้านระบบ BAMS (Business Activity Management System) ได้เปิดให้บริการบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ 39 บริษัท

พร้อมกันนี้ DTCENT มีแผนจะเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจาทางธุรกิจหลายราย คาดว่า จะเห็นความชัดเจน 1-2 ราย ภายในปีนี้

ส่วนความร่วมมือกับ 2 พันธมิตรทางธุรกิจ ประกอบด้วย บริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ได้รับงานโครงการของหน่วยงานภาครัฐร่วมกัน สามารถทยอยรับรู้รายได้อย่างสม่ำเสมอ ในส่วนของบริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) จะสามารถเริ่มงานในปี 2568 ทั้ง OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics และบริษัทได้รับใบ Certificate IATF 16949 ระบบมาตรฐานการจัดการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผู้ผลิตยานยนต์เรียบร้อยแล้ว สามารถเริ่มงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย

“ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2567 และงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทสามารถทำผลงานออกมาได้ดีมาก จากงานโครงการของทางภาครัฐและเอกชน เป็นการให้บริการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ควบคุมและติดตามการขนส่งสินค้า (IoT Solutions และระบบ AI) และระบบโปรแกรมประยุกต์เมืองอัจฉริยะ (Smart City) เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้องค์กรของลูกค้า รวมทั้งการเช่าอุปกรณ์สำหรับติดตามยานพาหนะ GPS Tracking ได้รับความนิยมจากลูกค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์กับความต้องการ และให้เข้าถึงผู้ใช้รถทุกประเภท พร้อมทั้งสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง ยังคงเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ เรามีการปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อสถานการณ์ต่างๆ โดยนำความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในด้าน GPS, IoT Solutions มาวิจัยและพัฒนาอยู่เสมอ มั่นใจว่า ในปีนี้ผลงานทั้งในส่วนรายได้และกำไร จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย” นายทศพล กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น