ทางยกระดับดอนเมืองโชว์รายได้ค่าผ่านทางพุ่ง 7% หนุนกำไรครึ่งแรกปี 67 ทะยานแตะ 505 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บอร์ดเคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.21 บาท/หุ้น ฟากผู้บริหารมั่นใจครึ่งปีหลังไปได้สวย อานิสงส์ภาครัฐงัดมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว สร้าง New S-Curve หนุนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 505.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 486.72 ล้านบาท สาเหตุหลักจากปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้ค่าผ่านทางเพิ่มขึ้นจำนวน 76.90 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7%
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.42 บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับงวด 3 เดือนแรกในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท ดังนั้นบริษัทจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลส่วนที่เหลือในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท กำหนดจ่ายในวันที่ 6 กันยายน 2567
สำหรับแนวโน้มปริมาณการจราจรในไตรมาส 3 และภาพรวมในปี 2567 บริษัทได้ติดตามปริมาณการจราจรและทางยกระดับดอนเมือง พบว่า การเติบโตของปริมาณจราจรหลังจากนี้จะเป็นการเติบโตตามธรรมชาติตามปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ภาครัฐคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศอยู่ที่ประมาณ 2.7% ต่อปี โดยมีปัจจัยหลักที่ขึ้นอยู่กับภาคการบริการและภาคการท่องเที่ยว
ส่วนเหตุการณ์ที่ต้องติดตาม เพื่อประเมินปริมาณจราจร และรายได้ที่อาจจะเพิ่มขึ้นแบบมีนัยสำคัญนั้น คงต้องติดตามการย้ายมาให้บริการที่สนามบินดอนเมืองของสายการบินระหว่างประเทศ อาจทำให้เพิ่มปริมาณจราจรบนทางยกระดับดอนเมือง และนโยบายของรัฐบาลที่มีแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวในระยะถัดไป ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 2566 และจะทำให้ปริมาณการเดินทางโดยรวมเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีเที่ยวบินจากสายการบินนานาชาติเพิ่มมากขึ้น จากการกลับมาใช้อาคาร 1 สนามบินดอนเมืองที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ จะส่งผลให้ปริมาณการจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะเดียวกัน DMT จะเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งงานโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ของภาครัฐ โดยมีเป้าหมาย คือ โครงการ M82 (โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว) โครงการ M5 (ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต-บางปะอิน) ที่คาดว่าจะเปิดประมูลในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 และในปี 2568 ตามลำดับ รวมทั้งการแสวงหาโอกาสในธุรกิจใหม่ เพื่อสร้าง New S-Curve สนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น
แนวโน้มผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลัง 2567 มีทิศทางที่สดใสต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก ตามปริมาณจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการฟรีวีซ่า การท่องเที่ยวนอกฤดูกาล 55 จังหวัด และแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซาด้วยแนวทางการดึงดูดนักท่องเที่ยวมาไทย รวมถึงความพร้อมในการเข้าประมูลงานใหม่ตามแผนที่วางไว้ เชื่อว่าจะทำให้ตลอดปี 2567 บริษัทจะมีรายได้เติบโต 10% ตามเป้าหมาย โดยปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันคาดว่าจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 116,000 คันต่อวัน จากปี 2566 เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 106,907 คันต่อวัน
นอกจากนี้ DMT ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนด้าน ESG ในการใช้พลังงานทดแทนครบวงจรต่อเนื่องโดยในไตรมาส 2 นี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จในการติดตั้ง Solar Rooftop ในระยะที่ 2 บนอาคารด่านทั้ง 8 ด่าน และติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงานบนโคมไฟถนนบนทางยกระดับ 1,540 ต้น รวมทั้งจะมีการนำวัสดุลดความร้อนมาใช้ในการบำรุงรักษาทางยกระดับ เช่น สีลดโลกร้อน ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก (Hydraulic Cement หรือปูนลดโลกร้อน) การดำเนินงานขับเคลื่อนด้าน ESG อย่างต่อเนื่องเป็นส่วนช่วยในด้านสิ่งแวดล้อม และยังช่วยให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง และมีกำไรเพิ่มขึ้น