ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง โชว์ผลงาน Q2 อวดรายได้รวมแตะ 1,512.5 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 162.2 ล้านบาท ผลจากยอดขายสินค้าหลักและผลิตภัณฑ์ใหม่คึก ขณะบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น ฟากผู้บริหารมั่นใจแนวโน้มรายได้และผลประกอบการปี 2567 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาส 2/2567 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,512.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.8 ล้านบาท หรือ 2.2% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 1,480.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 162.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5 ล้านบาท หรือ 3.6% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 156.7 ล้านบาท
ในขณะที่งวด 6 เดือนของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,970.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.1 ล้านบาท หรือ 2.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 2,908.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 319.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1 ล้านบาท หรือ 2.9% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 310.7 ล้านบาท
การที่ภาพรวมผลดำเนินการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง มาจากยอดจำหน่ายสินค้าหลักอย่าง “เจเล่” และ “เบนโตะ” รวมถึงการออกสินค้าใหม่สู่ตลาดช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ได้แก่ Jele Fresshy กลิ่นแตงโม โลตัสหนังไก่กรอบ 2 รสชาติใหม่ “รสลาบ และรสไก่ทอดสไตล์หาดใหญ่” เบนโตะ แมกซ์ 3 รสชาติใหม่ “ทรงเครื่อง-ปรุงรส-ลาบ” กลุ่มของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Supplementary) ภายใต้แบรนด์ “เจเล่ฟิตต์” (Jele Fitt) ในรูปแบบเยลลี่รสผลไม้ และเมจิกฟาร์ม เฟรช คอมบูฉะ ซึ่งช่วยสนับสนุนยอดขายให้เติบโตได้เป็นอย่างดี
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 06/2567 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท รวมเป็นเงินปันผลประมาณ 240 ล้านบาท และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 กันยายน 2567
“สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทประเมินว่าจะเติบโตได้มากกว่าครึ่งปีแรก จากความแข็งแกร่งของแบรนด์สินค้าหลัก แผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ ประกอบกับในไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงหน้าขาย (High season) ส่วนปัจจัยหนุนจากโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) 10,000 บาท ที่จะแจกให้ประชาชนจำนวนประมาณ 50 ล้านคน ของทางภาครัฐ เพื่อใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี จะเป็นปัจจัยบวกให้ SNNP ในช่วงไตรมาส 4/2567 โดยจะกระตุ้นยอดขายในกลุ่มเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวให้คึกคัก สนับสนุนยอดขายรวมปีนี้ให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น และในส่วนของแผนระยะยาวบริษัทวางกลยุทธ์ขยายตลาดในต่างประเทศ ทั้งรูปแบบการส่งสินค้าไปขาย และการร่วมการทำตลาด รวมถึงการแต่งตั้งตัวแทนจัดจำหน่าย เพื่อสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว” นายวิโรจน์ กล่าว