หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -0.66 จุด ปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นเอเซีย และตลาดหุ้นยุโรป จากความกังวลเศรษฐกิจถดถอยทำให้มีแรงขายลดความเสี่ยงออกมา ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังคงเกี่ยวข้องกับประเด็นการเมืองทั้งการยุบพรรคก้าวไกล และการวินิจฉัยคุณสมบัติตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน มองกรอบการลงทุนแนวต้าน 1,290-1,295 จุด ส่วนแนวรับ 1,265-1,270 จุด แนะจับตาการทยอยประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะมีผลต่อแรงซื้อและแรงขายของหุ้นตามผลประกอบการ
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 6 ส.ค. 2567 ปรับตัวลดลง -0.66 จุด หรือ -0.05% โดยปิดตลาดที่ 1,274.01 จุด มูลค่าซื้อขาย 38,230.49 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีปรับตัวฟื้นขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่จะค่อยๆย่อตัวลง โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,289.24 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,274.01 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 230 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 148 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 271 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -723.81 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -506.88 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +683.34 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +547.35 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,058.91 ล้านบาท ปิดที่ 96.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
2.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,784.53 ล้านบาท ปิดที่ 238.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
3.TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,458.20 ล้านบาท ปิดที่ 9.65 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.MINT มูลค่าการซื้อขาย 1,382.69 ล้านบาท ปิดที่ 25.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
5.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,348.35 ล้านบาท ปิดที่ 26.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.TCAP ปิดที่ 46.00บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 4.55%
2.BCP ปิดที่ 35.00บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 4.48%
3.DELTA ปิดที่ 96.75บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 1.57%
4.SKY ปิดที่ 16.90บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาท หรือ 6.29%
5.SAPPE ปิดที่ 89.50บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาท หรือ 1.13%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EONTS ปิดที่ 108.50 บาท ลดลง 4.00บาท หรือ 3.56%
2.SCC ปิดที่ 202.00 บาท ลดลง 4.00บาท หรือ 1.94%
3.ADVANC ปิดที่ 238.00 บาท ลดลง2.00บาท หรือ 0.83%
4.MINT ปิดที่ 25.50 บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 5.56%
5.KCE ปิดที่ 40.00 บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 3.61%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,748.92 จุด ลดลง -0.93 จุด หรือ -0.05% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 806.18 จุด เพิ่มขึ้น 0.23 จุด หรือ 0.03% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 308.89 จุด ลดลง -2.24 จุด หรือ -0.72%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งผันผวน ช่วงต้นรีบาวด์ขึ้นมาได้แรง แต่ที่สุดได้ลดช่วงบวกลงมาและพลิกมาปิดลบเล็กน้อย แกว่งตัวคล้ายตลาดภูมิภาคเอเชีย และตลาดหุ้นยุโรปเปิดมาก็ปรับตัวลงต่อ เนื่องจากยังกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย (Recession) ทำให้มีแรงขายลดความเสี่ยงออกมา
ขณะเดียวกัน ปัจจัยในประเทศยังคง Overhang ตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะพรุ่งนี้ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล และสัปดาห์หน้าจะตัดสินคดีคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีผลต่อทิศทางของตลาดหุ้นไทย
"แนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์เกาะติดปัจจัยการเมืองในประเทศ และในช่วงนี้จะมีการทยอยประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะมีผลต่อแรงซื้อและแรงขายของหุ้นตามผลประกอบการ ให้แนวต้าน 1,290-1,295 จุด แนวรับ 1,265-1,270 จุด" นายชัยพร กล่าวทิ้งท้าย